ร้อยเอ็ด – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ มอบนโยบายแก้หนี้ กยศ. มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด-ตรวจเยี่ยมการฝึกอาชีพภายในเรือนจำร้อยเอ็ด
ในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่มอบนโยบายแนวทางในการ “แก้ไขปัญหากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้นอกระบบ และการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถาบันการศึกษา” ให้แก่นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จำนวน 1,500คน โดยมี นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายนรากร นาเมืองรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร้อยเอ็ด เขต 4 พรรคเพื่อไทย นายนิคม บุญวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สิ่งที่มีความสำคัญมาก เรื่องแรก คือ หนี้สินทางการศึกษาหรือ หนี้ กยศ. ที่เกิดขึ้นกับเด็ก และหนี้สินของครู และเรื่องที่ 2 คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด สถานที่ที่เรามาพูดคุยกันในวันนี้และบุคคลที่เรามาพบปะ คือ อนาคตของชาติที่มีความสำคัญมากเพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญ และคุณภาพของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหนี้ กยศ. ฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้มากขึ้น
ที่ผ่านมาการชดใช้หนี้ของลูกหนี้มากมายเพียงใดก็ยังไม่มีอนาคต เพราะเงินที่จ่ายไปไม่ถึงเงินต้น จึงมีการเปลี่ยนหลักการ จากที่เคยคิดดอกเบี้ย 7.5% และเบี้ยปรับ 18% กับลูกหนึ้ที่ไม่มีงานทำ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่สามารถหาเงินไปจ่ายหนึ้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งการชดใช้หนี้จะมีการนำเงินที่จ่ายไปชดใข้เบี้ยปรับ นำไปชดใช้ดอกเบี้ย ก่อนจะนำไปชดใช้เงินต้น ทำให้การใช้หนี้ของน้อง ๆ จึงไม่มีวันจบสิ้น
หลักการของการศึกษา คนมีการศึกษาได้จะถือว่าประเทศมีกำไร แต่เมื่อพวกเขายังมีหนี้สินไม่สามารถใช้หนี้ได้ เกิดเป็นภาระ เป็นความทุกข์ที่ค่อนข้างมาก เพราะเรามีลูกหนี้ กยศ. กว่า 7 ล้านราย รวมถึงผู้ค้ำที่จะสร้างอันตราย คือ เมื่อมีการฟ้องร้อง จะมีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาด เอาบ้านเรือนของผู้ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่ คือ พ่อแม่ของลูกหนี้ แต่ปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมาย มีการเปลี่ยนแปลงหลักการการชดใช้หนี้ที่จะนำไปชดใช้เงินต้น ชดใช้เบี้ยปรับที่คิดในอัตราไม่เกิน 0.5% รวมถึงดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 1% เกิดความเป็นธรรมกับลูกหนี้มากขึ้น
”วันนี้จึงจะมาชี้แจงกับน้อง ๆ ที่นี่ได้ทำความเข้าใจ เพราะเท่าที่ทราบ ที่นี่มีการกู้เงินจาก กยศ. ประมาณ 80% พร้อมการทำให้ประชาชนตื่นรู้ เข้าใจว่าการแก้ไขปัญหาต้องใช้ความยุติธรรม อีกส่วนหนึ่ง คือ หนี้ครู การทำให้ครูมีเงินเหลือประมาณ 30% ของรายได้ เรื่องทั้งหมดนี้ หากได้รับการแก้ไขจะถือเป็นการปลดปล่อยความทุกข์ของคนไปได้“ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังระบุด้วยว่า ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ “ยาเสพติด” ที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีปัญหายาเสพติดอันดับที่ 26 จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศที่มีการระบาดจากชายแดนบริเวณฝั่งแม่น้ำโขง แถบจังหวัดบึงกาฬ ก่อนกระจายเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสาน ต่างจากยาเสพติดที่มาจากชายแดนภาคเหนือจะมีปลายทางที่ภาคกลาง ภาคใต้ แต่ทั้งหมดจะส่งผลกระทบกระทบต่อคุณภาพของคนที่อ่อนแอลง วันนี้จึงมาทำความเข้าใจว่าเราต้องร่วมกันต่อต้าน ปฏิเสธยาเสพติด ที่จะทำให้เกิดโรคร้ายสร้างปัญหากับสมอง เป็นการทำลายอนาคตของชาติ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “การแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. หนี้สินของครู และปัญหายาเสพติด จึงถือเป็นเรื่องการสร้างคุณภาพของคน ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ให้โอกาสทุกคน รวมทั้งจะหาโอกาสไปสื่อสารที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพราะต้องการสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติได้ จึงต้องหันมาสร้างคนเพื่อให้คนไปสร้างครอบครัว สร้างสังคมและสร้างชาติ”
จากนั้น ในเวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายอภินันท์ ศรียอดแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้โอวาทกับผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งชายและหญิง ก่อนเยี่ยมชมพื้นที่การดำเนินงานต่าง ๆ ภายในเรือนจำ ที่มีการปรับเป็นสถานที่ฝึกวิชาชีพ อาทิ การฝึกทำอาหารและขนม การนวดไทยเพื่อสุขภาพ การนวดแผนโบราณ การเสริมสวย ฯลฯ เป็นต้น โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะชิมขนมฝีมือผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งขนมไทย และขนมแบบต่าง ๆ ร่วมทั้งยังได้อุดหนุนขนมดังกล่าวเลี้ยงผู้ต้องขังด้วย
ภาพ/ข่าว::พงษ์พัฒน์ นามสอน/ร้อยเอ็ด