ข่าวพาดหัวเพลิงไหม้

เสียงระเบิดดัง 2 ครั้งก่อนที่ไฟจะโหมกระหน่ำบ้านวอด 5 หลัง ย่านเจริญราษฎร์

วันที่ 15 มิถุนายน 2567
เวลา 15.20 น.

ร้อยตำรวจเอก ยุทธการ สุวรรณพงษ์ รอง สว.สอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยเจริญราษฎร์ 5 แยก 4-2 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบบ้านต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้านเลขที่ 458/4 ซอย เจริญราษฎร์ 5 แยก 4-2 ถนน เจริญราษฎร์ แขวง บางโคล่ เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง เเสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณชั้นล่างของตัวบ้านแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วขึ้นสู่ชั้นที่ 2 แล้วลามต่อไปอีก 3 หลังที่ปลูกติดกัน แล้วแสงเพลิงยังทวีความรุนแรงไปติดบ้านอีกหนึ่งหลังที่ปลูกติดกันและอยู่บริเวณด้านหลังบ้านต้นเพลิงหลังดังกล่าวไปด้วย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องให้เช่า 2 ห้องไม่มีเลขที่ และได้รับความเสียหายไปทั้งหมดรวมแล้ว 5 หลังคาเรือน ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะซอยแคบรถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุ ต้องแบกเครื่องหาบหามเข้าไป จึงทำให้การช่วยเหลือนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที แสงเพลิงจึงสงบลงเหลือเพียงแต่กลุ่มควันสีขาว จึงทำการใช้พัดลมเร่งระบายควันเพื่อเข้าไปตรวจสอบด้านในสถานที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเเละเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

และจากการสอบถาม นาง กฤษณา อายุ 48 ปี บอกเล่าว่า ตอนแรกที่มาไฟมันไหม้ร้านลาบ ตนก็เข้าบ้านไป มันมีแต่ควัน หาของไม่เจอ เปิดไฟก็ไม่ติด ตนสำลักควันหายใจไม่ออก ก็เลยออกมา เอาถังแก๊สกับปั้มน้ำออกมาได้ แก๊สเพิ่งเติมยังไม่หมด ปั้มน้ำเอาออกมาทีหลัง บ้านพี่ชายมีหลาน มีหลาน 2 เดือนอยู่ มีสะใภ้อยู่ แล้วออกไปข้างนอกไปสักพักนึง เค้าบอกไฟไหม้ ตนอยู่ตรงนี้แล้วมีคนมาบอกว่า เฮ้ย บ้านพี่มึงไฟไหม้ ก็เลยมา ไฟมันยังมาไม่ถึง เลยรีบเข้าไป มันก็มีแต่ควัน แต่แปปเดียวก็ไหม้หมดเลย

ส่วนทางด้าน นางสาว จตุพร อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านข้างบ้านต้นเพลิง บอกเล่าว่า ตนอยู่บริษัท ลูกสาวตนอยู่คนเดียว โทรมาบอกว่า ไฟไหม้บ้านน้าอ้อย ตนเลยรีบกลับมา ดีว่าลูกสาวตนปิดบ้านออกมาทัน เอาไรออกมาไม่ได้เลย รถดับเพลิงมาช้า เลยลามไหม้ไปด้วย ไม่งั้นก็อาจจะเหลืออะไรบ้าง นี่ไม่เหลืออะไรเลย ต่อจากนี้ก็ยังไม่รู้จะทำไงต่อ คิดไม่ออก

ส่วนทางด้าน น.ส.คุณธิดา อายุ 28 ปี บ้านที่เสียหายเล็กน้อยบอกเล่าว่า ตนตากผ้าอยู่ แล้วได้ยินเสียงมันระเบิด ตนคิดว่าเป็นรถชน แล้วได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง กรี๊ด ไม่รู้ว่าบ้านหลังไหน ตนก็ตะโกนถามว่า มีใครเป็นไรมั้ย แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดอีกครั้งนึง แล้วก็มีควันขึ้น ตนเลยรีบเอาลูกตนออกจากบ้านเลย ตนไม่แน่ใจเลยว่าบ้านหลังไหน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงตรวจสอบจากที่เกิดเหตุแล้วพบว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 458 / 4 แล้วเป็นเหตุให้บ้านข้างเคียงไปที่บ้านเลขที่ 458 / 3 , 458 / 5 , 458 / 6 , และลุกลามต่อเนื่องไปที่บ้านปูนชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องให้เช่า 2 ห้อง ไม่มีเลขที่ อีก 1 หลัง รวมทั้งสิ้นบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 หลังคาเรือน และยังมีบ้านที่เสียหายอีกเล็กน้อยอีกหลายหลังซึ่งได้รับผลกระทบจากความร้อนของเปลวเพลิงอีก 2-3 หลังคาเรือน และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในสถานที่เกิดเหตุ และจะต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วจะเชิญตัวเจ้าของบ้านต้นเพลิงไปสอบถามถึงสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้งที่ สน.วัดพระยาไกร ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป