วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 22.39 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะรับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถจักรยานยต์เฉี่ยวชนกันบริเวณหน้าปากซอย ประชาอุทิศ 26/5 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเป็นชาย 1 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขต ราษฎร์บูรณะ ) พร้อมทั้งอาสสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอย ประชาอุทิศ 26/5 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดบริเวณโคนเสาไฟฟ้าเลขที่ ร128 พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อายุ 24 ปี เป็นไรเดอร์ส่งอาหารของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านประชาอุทิศ นอนแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู้กับพื้นโคนเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว จากการตรวจสอบร่างกายผู้ได้รับบาดเจ็บพบว่า มีบาดแผลแตกขนาดใหญ่หลายแผลที่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และ กระดูกซี่โครงหัก แล้วมีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง สัญญาณชีพอ่อน อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการทำ CPR แล้วหลังจากนั้นได้ส่งมอบผู้ได้รับบาดเจ็บให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเอราวัณให้ดำเนินการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ราษฎร์บูรณะ ทันทีอย่างเร่งด่วน
และต่อมาภายในจุดเกิดเหตุได้พบกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น Click 160 CC สีแดง ทะเบียน 7 ขก 3845 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงคว่ำอยู่ริมฟุตปาธ ในสภาพชุดสีด้านหน้าแตกกระจาย แผ่นป้ายทะเบียนหลุดออกจากตัวรถ บริเวณท้ายรถจักรยานยนต์ยังพบกล่องใส่อาหารร้อนเย็นของร้านสะดวกซื้อผูกอยู่ด้วย 1 ใบ ซึ่งทราบต่อมาภายหลังว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ และต่อมาบริเวณหน้าปากซอยพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Altis สี บรอนซ์เงิน ทะเบียน 8 กอ 1270 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่กับที่โดยที่กันชนด้านหน้าแตกละเอียด ทะเบียนหน้าหลุดกระเด็นออกจากตัวรถ แล้วยังพบชิ้นส่วนชุดสีของรถจักรยานยนต์ติดคาอยู่ที่บริเวณด้านหน้ากันชนอีกด้วย ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันดังกล่าว เป็นหญิง อายุ 30 ปี อยู่ในอาการตกใจสุดขีดนั่งร้องไห้อยู่ภายในรถโดยมีญาติๆคอยปลอบใจอยู่ด้วย
จากการสอบถาม ผู้ขับขี่รถยนต์ กล่าวว่า ตนมาจากโรงพยาบาลตนพยายามชะลอแล้ว แต่ว่าเขามาแบบเร็วมาก มาแบบมอเตอร์ไซค์มาเร็วแล้วพี่คนนั้นก็บอกว่าใช่มอเตอร์ไซค์มาเร็ว คนที่เห็นเหตุการณ์น่ะ แล้วตอนเกิดเหตุตนก็ไม่ได้เห็นอะไรเลย แบบว่าตนเลี้ยวมาแล้วตนชะลอ แล้วตนก็เห็นว่ามอเตอร์ไซค์อยู่ไกลมากๆ แล้วตนก็คิดว่ามอเตอร์ไซค์น่าจะชะลอเพราะว่าเห็นตนเลี้ยวเข้ามาแล้วครึ่งนึง แล้วตนก็พยายามเบรคแล้ว แต่มอเตอร์ไซค์ก็มาเร็วมากๆ ตนเป็นกรดไหลย้อน ตนไปฉีดยาลดกรดที่โรงพยาบาล แล้วกำลังจะเข้าบ้าน
ส่วนทางด้าน นางสาว ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว่า ตนเห็นเขาขับมากับ Line Man อีกคัน เพราะว่าตนขี่ตามหลังมา แล้วพี่รถเก๋งเขากำลังจะเลี้ยวเข้าซอยแล้วเขาก็เบรค แล้วรถมอเตอร์ไซค์น่าจะเบรคไม่ทัน ก็เลยแฉลบ ตรงกันชนด้านหน้าของเขา แล้ว Rider ของร้านสะดวกซื้อก็อัดเข้ากับเสาไฟไปเลย แล้วเขาก็นิ่งไปเลย แล้วก็มีชาวบ้านแถวนี้ช่วยกันโทร เรียกกู้ภัย แล้วตอนนั้นตนก็ยังอยู่ดูเหตุการณ์ด้วย ส่วน LINE Man ที่ขับตีคู่กันมา ตอนเกิดเหตุเขาก็ไปจอดดูอยู่ตรงป้ายรถเมล์แล้วเขาก็เดินมาดูสักพักใหญ่ๆแล้วเขาก็ขี่รถไปเลย ตนก็ ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถของ LINE Man เพราะว่า เขาไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตนเห็นว่าเขาขับมาเร็วมาก แล้วมันเป็นจังหวะช่วงลงสะพานพอดี เหมือนกับทั้ง 2 คันขับเบียดกันมา แต่ว่า รถมอเตอร์ไซค์ของร้านสะดวกซื้อขับหลบไม่ทันแต่ LINE Man หลบทัน ตนคิดว่า รถจักรยานยนต์ น่าจะเบรคไม่ทัน เพราะว่าเป็นช่วงทางลงสะพานพอดี ก็เลยเสียหลัก อัดเข้าเสาไฟ แล้วพี่คนขับรถเก๋ง เขาก็เป็นผู้หญิง เขาก็ตกใจมาก แล้วเขาก็นั่งนิ่งอยู่ในรถเลย เพราะว่า เขาอาจจะทำอะไรไม่ถูก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันดังกล่าวไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.ราษฎร์บูรณะ แล้วจะต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นหรือพอที่จะให้การได้ถึงจะเชิญตัวมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้งแล้วจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุดังกล่าว ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปและยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน