วันที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลา 11.00 น.
นาง วิจิตรา ปิยะปัทมินทร์ อายุ 51 ปี ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เรื่องที่ตนถูกผู้รับเหมารีโนเวทบ้าน เทงานแล้วบิดเงิน 219,300 บาท หายเข้ากลีบเมฆ แถมยังประกาศลั่นว่าไม่กลัวตำรวจเพราะรู้จักกับตำรวจยศใหญ่ แล้วยังท้าท้ายให้ผู้เสียหายไปฟ้องอย่างมากก็แค่เป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา จึงไม่กลัวเพราะไม่ได้ทำให้ติดคุก แล้วก็ไม่ได้ทำให้ถึงตาย ผู้เสียหายจึงไปสืบค้นประวัติพบผู้รับเหมามหาภัยรายนี้เคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งรวมแล้วทั้นตนด้วย จึงตกเป็นเหยื่อรายที่ 8 จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม ผ่านไปเป็นเดือนเรื่องกลับเงียบหายไป ตนเองช้ำใจอย่างหนักนอนร้องให้ทุกคืนสามีก็ป่วยหนักต้องการเงินไปฟอกใต จนทุกวันนี้หันหน้าไปพึ่งพาอาศัยใครก็ไม่ได้ หวั่นเกรงคดีไม่คืบหน้า กลัวคดีจะหมดอายุความ จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาดูแลตนและสามีด้วย แล้วไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดขึ้นกับใครอีกเลย ส่วนตนเองตอนนี้อายุก็มากแล้ว สามีก็ป่วยหนัก รายได้ก็ไม่มีหวังแค่จะนำเงินที่ได้จากทำประกันมารีโนเวทบ้านเพื่อจะแบ่งให้คนได้เช่าพักอยู่อาศัยแล้วจะได้มีรายได้มาต่อชีวิตที่เหลือและจะเจียดเงินบางส่วนมาเป็นค่ารักษาพยาบาลสามีของตนเองก็กลับมาถูกคนใจร้ายโกงไปแบบหน้าด้านๆอีก
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เวลา ประมาณ 10.00 น. นาง วิจิตรา ปิยะปัทมินทร์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ซอย อนามัยงามเจริญ 25 แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหาคร ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ร้อยตำรวจโท ธนทรัพย์ รัศมีภูผา รอง สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม เพื้อร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้รับเหมารีโนเวทบ้าน ชื่อ นาย วีระวัตร ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 41 ปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งตนเองนั้นได้ว่าจ้างนาย วีระวัตร ให้ไปรีโนเวทบ้าน ที่ ซอย เจริญกรุง 85 แยก 6-8 กำหนดแล้วเสร็จ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 โดยตนได้ทำหนังสือสัญญาจ้างเหมาทั่วไปเอาไว้กับผู้รับจ้างก็คือ นาย วีระวัตร โดยถึงปัจจุบันผู้รับเหมารายดังกล่าวก็ยังทำไม่แล้วเสร็จ โดยทำได้เเค่เทปูนเพียงอย่างเดียว แล้วตนเองได้ชำระเงินให้กับผู้รับเหมาคนดังกล่าวไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 219,300 บาท หลังจากนั้นผู้รับเหมาก็ยังเสอขอต่อเติมเรื่อยๆ และเมื่อตนบอกว่าไม่ทำผู้รับเหมาก็จะแสดงอาการไม่พอใจ ทำให้ตนภด้รับความเสียหาย ก็เลยตัดสินใจแจ้งความต่อหน้าเจ้าพนักงานสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
และจากการสอบถาม นาง วิจิตรา ปิยะปัทมินทร์ อายุ 51 ปี ผู้เสียหายกล่าวว่า ก็คือว่าวันที่ 30 เมษายน นะคะ เอ่อเอาตั้งแต่แรกๆแล้ว 29 เมษายน เราลงในกลุ่มหางานแล้วทีนี้เราบอกว่าเออมีช่างคนนึงมาตีราคาให้เรานะ 400,000 บาทแล้วทีนี้เราก็ฝากเบอร์โทรไว้แล้วช่างคนนี้แหละค่ะมารับงานเขาก็เลยโทรมาโทรมาสายตรงเลยค่ะเราทิ้งเบอร์โทรไว้ให้เขาก็บอกว่าพี่ของผมนะ 180,000 บาท โอเคเราก็บอกช่าง 180,000 บาทแล้วช่างอยู่ที่ไหนเขาก็บอกว่าอยู่แถวปทุมธานีอ่าพอบอกว่าอยู่ปทุมธานีมันไกลเกินไปไหมเขาบอกไม่เป็นไรผมไปได้เพราะว่าผมมีทีมงานหลายคนอ่าเดี๋ยวผมจะไปดูให้นะ พอวันที่ 30 มานัดกันก่อนเที่ยงเราก็มา 30 นั้นเป็นวันเสาร์ แล้วแฟนก็ไปฟอกไตเราก็เลยบอกว่าเออพี่เข้าไปคนเดียวนะได้ๆเดี๋ยวเข้าไปคนเดียวไปดูหน้างานแต่ผมไปกัน 3 คนแฟนผมด้วยแล้วก็มีช่างใหญ่อีกคนนึงเขาก็เข้ามาพอเข้ามาเขาก็ตีราคาไป 22,000 บาท ตีราคาไปเราก็บอกอ้าวตอนแรกบอกว่า 180,000 บาท ได้ๆ 180,000 บาท ก็ได้ครับก็ตกลงเป็น 180,000 บาท เขาก็เลยบอกว่าพี่ผมจะไปทำสัญญาที่บ้านพี่นะ ก็เลยบอกว่าบ้านพี่อยู่พระราม 2 พี่ไม่สะดวกเพราะว่าแฟนไปฟอกไต แล้วไม่เป็นไรวันนี้ผมว่างอ้าวเราก็ไว้ใจเชื่อใจพาเข้าไปบ้านที่พระราม 2 พอไปถึงเราก็สั่งข้าวสั่งน้ำให้เขากินรอแฟนแล้วส่วนเมียเขาก็ทำใบสัญญาขึ้นมาแต่เราก็ไม่ได้อ่านเพราะเราคุยกันแล้วหน้างานว่าเขาจะเบิกแสนอ่าแต่พอทำสัญญาเสร็จแล้วเราก็มาอ่านสัญญาอ้าวทำไมเบิกแสนนึงเราก็โทรไปบอกแฟนที่ฟอกไตว่า ถึงหน้าบิ๊กซีแวะบิ๊กซีพระราม 2 ก่อนช่างรอเอาตังค์อยู่แกก็เลยถามมาเท่าไหร่ช่างจะเบิกอยู่ 80,000 บาท แล้วทีนี้เสร็จแล้วเอ้า 80,000 บาท หรือ แสนนึงผมขอเบิกแสนนึงนะเราก็เงียบไปก็ช่างมันเถอะไม่เป็นไรแต่ก็คือแสนเราก็ให้พอแฟนมาตอนประมาณ 3 โมงครึ่ง นะข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินไปฟอกไตมาเหนื่อยๆ ก็มานั่งอ่านใบอ่านอะไรเรียบร้อยแล้วก็แฟนก็ต้องยอมไปเพราะว่าเขาไม่สบายมาก ก็เลยบอกช่างถ้าเบิกไปแล้วอย่างนี้ช่างรีบทำงานให้เลยได้ไหมช่างก็บอกได้ครับไม่ถึง 10 วันหรอกผมลง 20 วันเดี๋ยววันที่ 20 พฤษภาคม ก็เสร็จครับ ตนเข้าไปดูในเพจตามหาช่างสมุทรปราการ ตนก็ไม่เก่งเรื่องโทรศัพท์ แต่ช่างตอนแรกที่มาก็พูดจาดีทำได้ทุกอย่างตนก็เลยหลงเชื่อ เขาบอกว่าให้ตนโอนเงินอย่างเดียวไม่ต้องเข้ามาเขาทำเสร็จแล้วจะถ่ายรูปไปให้ดู แต่แล้วก็ไม่มีการส่งรูปมาให้ดูเลย ตนเองก็เลยเข้ามาแล้วมาเห็นหน้างานไม่มีอะไรคืบหน้าเลยซักอย่าง เสียเวลไปถึง 2 เดือน งานก็ไม่คืบหน้าเลย เขียนสัญญาเอาไว้ 20 วัน เงินที่ตกลงกันไว้ก็แค่ 180,000 บาท แต่เอาเข้าจริงก็คิดเพิ่มไปเลื่อยๆเลยจนเกินวงเงิน แต่แล้วก็ไม่ได้เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาเลย ตนก็เลยคิดว่าช่างคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นแล้ว ตนโดนฉ้อโกง เข้าแล้ว ก็เลยยอกให้เขาหยุดทำแล้วแต่แล้วเขาก็เอากุญแจมาล๊อกบ้านทั้งๆที่มันเป็นบ้านของตน ตนก็เข้าไม่ได้ แฟนของตนจึงออกอุบายว่ามีคนเช่าบ้านจะมาเอาของเขาถึงยอมให้กุญแจบ้านกลับมา คนของเขาเองนังบอกกับตนว่าน้าไม่ต้องโอนเงินให้แล้วนะเพราะเขาทิ้งงานมา 4 หลังแล้วนี่แหละขนาดคนของเขายังพูดเองเลย ตนก็เลยไปแจ้งความ แต่ผ่านมาแล้ว 1 เดือนเรื่องก็ยังเงียบอยู่ตนจึงอยากจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ว่าตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว และตนก็ยังมาฉุกคิดอีกว่าช่างคนนี้เคยบอกกับตนไว้ว่าต่อให้ไปแจ้งความตำรวจก็ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเขารู้จักตำรวจยศใหญ่ ตนเลยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงมาร้องขอให้สื่อช่วยนำเสนอเรื่องราวของตนเพื่อจะได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอีกหลายคนที่กำลังจะหาช่างรีโนเวทบ้านว่าอย่าหลงเชื่อช่างคนนี้อีกไม่อย่างนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อแบบตนได้ และตนก็อยากจะขอร้องให้คนที่โดนช่างคนดังกล่าวหลอกเงินไปให้รวมกันออกมาแจ้งความเพื่อจะได้นำตัวคนร้ายรายนี้มาลงโทษตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว