จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายมาในคราบของผู้โดยสารรถแท็กซี่สาธารณะ ซึ่งคนขับเป็นคุณตาวัย 75 ปี โดยคนร้ายที่นั่งโดยสารมาในรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ลวงคุณตาให้ขับเข้ามาส่งในซอยข้างวัดบางด้วนนอก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อมาถึงกลางซอยและหากบ้านประชาชนในละแวกที่เกิดเหตุไม่มากนัก ปรากฏว่าผู้โดยสารที่นั่งมาในรถกับคุณตาวัย 75 ปี ลอกคราบจากผู้โดยสารกลายเป็นโจรโหด ลงมือก่อเหตุทุบตีทำร้ายร่างกายคุณตา ก่อนจะพาไปเปิดประตูรถแล้วถีบคุณตาตกลงมาจากรถจนบาดเจ็บ จากนั้นขับรถแท็กซี่ของคุณตาหลบหนีไป
เหตุการณ์เกิดขึ้นราวสองทุ่มของค่ำคืน วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้จับกุมผู้ก่อเหตุได้ คือ นายวิสิชัย(หรืออาร์ม) เดชมาก อายุ 33 ปี ที่บริเวณภายในซอยอิสรภาพ 24 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร และตรวจยึดรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยตา สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 7773 กทม. ได้ที่ริมถนนภายในซอยอู่ทอง ม.4 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ โดยให้การอ้างว่า ถูกคุณลุงด่าบุพการี จึงทำให้หัวร้อน ลงมือก่อเหตุ ภายหลังจากที่ถูกฝ่ายสืบสวนคุมตัวมาสอบปากคำเบื้องต้น และทำบันทึกจับกุมและคุมตัวเข้าห้องขัง สภ.เมืองสมุทรปราการ
ล่าสุดช่วงบ่าย วันที่ 28 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ นำกำลังตำรวจ ควบคุมตัว นายวิสิชัย หรืออาร์ม เดชมาก อายุ 33 ปี ทำแผนยังจุดเกิดเหตุ บริเวณ ริมถนนหน้าวัดบางด้วนนอก ต.บางด้วน อ.เมืองสมุทรปราการ ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดู และตะโกนด่าทอตลอดการทำแผน โดยมีการจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ในรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยตา สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 7773 กรุงเทพมหานคร ขณะที่ก่อเหตุและนำขับหลบหนีไป
ชาวบ้าน (เสื้อน้ำเงิน) เผยด้วยน้ำเสียงโมโหว่า เอาเงินเอารถไป ไม่เท่าไหร่ แต่นี่มาทำร้ายคนแก่ ไม่มีทางสู้ แถมเขายังพิการอีก มันโหดเหี้ยมไป ไม่โอเคมาก แล้วมาทำในวัด ซึ่งวัดบางด้วนแถวนี้เพิ่งจะดีขึ้น แต่มาทำให้พื้นที่เสื่อมเสียอีก แล้วยังมาทำในเขตวัด
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากคืนก่อนเราได้รับแจ้งว่าเหตุชิงทรัพย์แท็กซี่ จึงชุดสืบสวน ของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากพยานหลักฐานและวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จึงสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ชายอายุประมาณ 30 ปี ผอมสูง มีรอยสักตาแขน ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้ทำการสอบสวน จนทราบว่า รถคันดังกล่าวไปจอดที่ริมถนนภายในซอยอู่ทอง จึงดำเนินการติดตาม โดยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และไปควบคุมตัวได้ที่แถวถนนอิสรภาพ 24 เขตธนบุรี ซึ่งตัวผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ ซึ่งจากการสอบถาม พฤติกรรมของผู้ต้องหา คือเรียกแท็กซี่จากซอยอิสรภาพ มาลงที่สมุทรปราการ เมื่อมาถึงทางด่วนใกล้ถึงช้างสามเศียร ก็มีการโต้เถียงกับทางคุณลุงขับแท็กซี่ แต่ว่าจากการสอบถามคุณลุง คุณลุงปฏิเสธว่าไม่ได้มีการโต้เถียงกัน ซึ่งทางผู้ต้องหามีการพูดในลักษณะข่มขู่ แล้วก็ให้เลี้ยวเข้ามาในวัดดังกล่าว และทำร้ายร่างกาย และใช้เท้าถีบคุณลุงจนตกรถ และลงมาเตะซ้ำ แล้วขับรถหลบหนีไป เบื้องต้นในประเด็นที่ผู้ต้องหาอ้างว่าป่วยจิตเวช แต่จากการตรวจสอบแล้วน่าจะเป็นจากการเสพยาเสพติดมากกว่า และจากการตรวจสอบไม่ได้มีทรัพย์สินในตัวผู้ต้องหา ตามที่คุณลุงได้กล่าวอ้างมา โทรศัพท์มือถือของคุณลุงก็ตกอยู่ภายในรถ ผู้ต้องหาไม่ได้เอาไป หลังจากตำรวจจับตัวได้เมื่อวาน ก็ยังขอให้ตำรวจซื้อข้าวให้กิน แต่จากการก่อเหตุเชื่อว่าอาจจะมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์สิน แต่บังเอิญทรัพย์สินคุณลุงวางอยู่ในรถ ว่างในตำแหน่งที่คนร้ายหาไม่เจอมากกว่า ส่วนบัตรเอทีเอ็ม ผู้ต้องหาอ้างว่าโยนทิ้งระหว่างทาง และไม่พบว่ามีการกดเงินจากบัญชี
ซึ่งประวัติมีการก่อเหตุต้องมาโทษมา 10 คดี 7 คดีเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด อีก 2 คดี เป็นคดีอาวุธปืน และอีกคดี เป็นคดีลักทรัพย์ และจากการตรวจหาสารเสพติดในมีร่างกายผู้ต้องหาพบว่า มีสาร เฟมาลีน โดยขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายทั้งร่างายและจิตใจ
***********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ