เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2567
ร.ต.ท.กิตติโชติ สุ่มมาตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุทาวเวอร์เครนล้มทับคนงานบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดไซต์งานก่อสร้างโรงงานกำจัดมูลฝอย ด้วยวิธีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ซอยอ่อนนุช 86 แยก 2 แขวง ประเวศ เขต ประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อม อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นไซต์งานกำลังก่อสร้าง พบทาวเวอร์เครน ฐานปูนติดตั้งอยู่กับพื้นดิน รับน้ำหนักได้ 12 ตัน สูง 20 เมตร แขนเครนมีความยาว 70 เมตร หลุดช่วงโคนฐานเครนล้มทับรถโม่ปูน ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว พลิกตะแคง 1 คัน และแขนเครนยังไปทับอาคารสำนักงานชั่วคราวชั้นเดียวได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ระหว่างฐานเครนและอาคารสำนักงานชั่วคราว พบห้องบังคับเครน ซึ่งเป็นตู้เหล็กหลุดออกจากเครนทับศีรษะ นาย สมนึก อายุ 53 ปี คนบังคับเครน จนเสียชีวิต สภาพนอนตะแคงซ้ายสวมเสื้อยืดแขนยาว สีเขียว นุ่งกางเกงยีนต์ขายาวสีน้ำเงิน ตรวจสอบภายในอาคารสำนักงานชั่วคราว สภาพพังยับเยิน พบศพ นาย สุนันท์อายุ 47 ปี โฟร์แมนถูกปลายแขนเครนหล่นทับ สภาพกะโหลกศีรษะแตกร่างแหลกเหลว
ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นคนงานมี 7 ราย ทราบชื่อแล้ว 3 ราย คือ นาย ภีรวิช อายุ 28 ปี, นายอิทธิพล อายุ 42 ปี, และนายรุ่ง อายุ 54 ปี มีบาดแผลถูกเศษกระจก เศษชิ้นส่วนของเครน และเศษซากปรักหักพังกระเด็นใส่ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.สิรินธร ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล
จากการสอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ เล่าว่า ตนขี่รถ จยย. มาจอดริมถนนหน้าไซต์งาน ขณะกำลังซื้อข้าวได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีชิ้นส่วนของเครนกระเด็นมาถูกรถตนได้รับความเสียหาย โชคดีตนไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน ทราบว่า ขณะที่ นาย สมนึก กำลังควบคุมเครนอยู่นั้น ฐานเครนกับปูนหลุดออกจากพื้นดิน จนเห็นเสาเข็มโผล่ ช่วงโคนฐานเครนล้มทับรถโม่ปูน ห้องควบคุมเครนหลุดออกจากเครนหล่นกระเด็น พร้อมคนควบคุมเครนถูกห้องควบคุมทับศีรษะ ส่วนปลายแขนเครนฟาดใส่อาคารสำนักงานชั่วคราว และทับ นาย สุนันท์ ที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิตเสียชีวิต ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมงาน ส่วนสาหตุฐานปูนเครนหลุดออกจากเสาเข็มนั้น อยู่ระหว่างการตรวจหาสาเหตุ เบื้องต้นคาดฐานเครนไม่ได้มาตรฐานรับน้ำหนักเครนไม่ไหว เจ้าหน้าที่นำผู้เกี่ยวข้องไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป