ข่าวพาดหัว

พม.สมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกช่วยคุณยายวัย 73 ปี อ้างถูกลูกสะใภ้ตีหัวจนบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ พม.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข อบต.บางเสาธง ร่วมกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ คุณยาย อุดม อายุ 73 ปี ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า คุณยาย ท่านนี้ ถูกลูกสะใภ้ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ พอเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ก็พบว่า คุณยาย แตกจากการถูกของแข็งที่กลางศีรษะ และบาดแผลฟกซ้ำตามใบหน้าและร่างกาย นอกจากนั้นยังพบบาดแผลเก่าที่เคยถูกทำร้ายร่างกายจนต้องเย็บหลายเข็ม เจ้าหน้าที่จึงเข้าพูดคุยหาสาเหตุเบื้องต้นกับทางคุณยายท่านนี้และช่วยเหลือตามสิทธิ์ โดยเฉพาะพาตัวคุณยายไปตรวจรักษาร่างกายที่โรงพยาบาลบางเสาธง จากนั้นจะเข้าสู่ขบวนการ


จากการสอบถาม ยายอุดม ซึ่งมีบาดแผลฟกช้ำ มีรอยเย็บที่ริมฝีปากบน ใบหน้าและตาด้านซ้าย ปูดบวม ด้านแผ่นหลังมีรอยบาดแผล ศีรษะมีรอยแตก ยายเล่าว่า เรื่องเกิดจากฟันของยายหายไป ลูกสะใภ้เอาฟันยายไปทิ้ง ยายก็ไปหาแต่ไม่เจอ ส่วนบาดแผลที่ใบหน้าก็โดนลูกชายและลูกสะใภ้เขาตี เขาบอกว่าอยู่เฉยๆไม่ได้หรือไง ยายก็เถียงไปว่ากูหาฟันกู แล้วฟันแม่ไปไหน มึงเอาไปทิ้งไม่ใช่เหรอ เขาบอกว่าอีดม มึงอยู่คนเดียวเถอะ ที่ยายบอกว่าลื่นล้มก่อนหน้า ก็ลื่นล้มจริงๆ ก็คือโดนตีล้ม ลูกไปวิ่งงานมาทียายก็เก็บเสื้อผ้า เอามาซักให้ เห็นเขาใส่ๆไว้ ยายอยู่บ้านเฉยๆ ก็ช่วยซักให้ มันก็หาว่าซักแล้วก็เอามาซักอีก ยายก็บอกไปว่า กูเห็นมึงใส่ตะกร้าก็กูเอามาซักสิ เมื่อนักข่าวถามว่า มีคนจะพาไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวว่ายายจะถูกทำร้ายอีก ยายอยากไปไหม ยายบอกว่า ชอบอยู่ที่นี่เพราะมันเงียบดี แต่จะให้ไปไหนก็ไป


ส่วน นายเอก ลูกชาย เล่าว่า ปกติที่บ้านจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตนเอง แฟน ลูกอายุประมาณ 4 ขวบ และแม่ ช่วงเกิดเหตุผมออกไปทำงาน แล้วแฟนผม บอกว่าแม่ลื่นล้มหัวแตก ซึ่งแฟนก็บอกว่าแม่ลื่นล้ม และถ่ายรูปมาให้ดู ผมก็เลยกลับบ้านมาดู ก็พบว่าแม่มีรอยหัวแตกจริงๆ ก็เลยพาไปส่งรพ. พอไปส่งเสร็จปุ๊บ พอวันที่ 2 เขาก็บอกอีกว่า เขาลิ่นล้มหน้าตาเขียวหมดเลย แล้วผมก็เลยพาไปหาหมออีกเมื่อคืน ปกติแม่ก็ไม่ได้มีบาดแผลบ่อย มีแค่เมื่อวานกับวันนี้ ในส่วนตัวก็คิดว่าบาดแผลแบบนี้น่าจะโดนทำร้าย และลื่นล้ม มันบาดแผลไม่เหมือนกัน ถ้าโดนทำร้ายมันก็จะบาดแผลแบบเขียว ฟกช้ำ แต่ถ้าลื่นล้มหรืออะไรหล่นใส่หัว ก็อาจจะมีรอยเจาะ แต่บาดแผลของแม่เป็นแบบรอยแตกยาว ส่วนสาเหตุผมไม่แน่ใจว่า แต่ทางแม่ชอบหลงๆลืมๆชอบทำอะไรแบบซ้ำๆ รื้อข้าวของทุกวัน แบบจะย้ายบ้านทุกวัน ส่วนแฟนผมก็จะเป็นคนคอบตามเก็บของ เขารักความสะอาด ถ้ามีอะไรเลอะเทอะ เขาก็จะมีการบ่นนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับทำร้าย แต่พอหลังๆแม่ผมก็เริ่มมีบาดแผลนิดหน่อย กับแฟน ผมจะอยู่อีกที่หนึ่ง เขาอยู่อีกที่หนึ่ง แต่เขาจะไปรับส่งลูกทุกวัน ผมก็ถามแฟนว่าเรื่องเกิดจากอะไร เขาบอกว่า แม่เอาผ้ามาซัก แล้วพื้นซึ่งมันเป็นพื้นกระเบื้อง พอน้ำมันแฉะแม่ก็ลื่นล้มหน้าไปกระแทกกับพื้น เขายืนยันว่าแม่ลื่นล้มเอง แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อ เพราะแม่มีบาดแผลตรงขอบตาบ้าง แก้มบ้าง แต่ถ้าถามว่าตรงขอบตาไปโดนอะไรมา มันถึงเขียวช้ำได้ขนาดนั้น ผมอยากขอให้หน่วยงานช่วยเหลือ ซึ่งผมเองไม่มีเวลาดูแลแม่ เพราะขับรถรับจ้าง ผมไปกลับไม่เป็นเวลา บางทีไปตี 3 ก็กลับมาตี3 ของอีกวันก็มี กับแฟนได้พูดคุยว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผมก็จะไม่ให้เขาดูแล เพราะผมก็ไม่รู้ว่าแม่ไปโดนอะไรมา


นส กิตยาพันธ์ เสนสิงห์ อายุ 42 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ 2 วันก่อน ตนก็มาทำงานปกติ แล้วตนก็เดินเข้าไปทักยาย เหมือนปกติทุกวัน ว่ายายกินข้าวหรือยัง ทีนี้ยายเขาก็เดินออกมา แล้วบอกว่าลูกสะใภ้ตีหัวเขา เขาก็กำตรงหัวและมีเลือดไหล หน้าซีด เราก็โทรถามว่าใครทำ เขาก็บอกว่าลูกสะใภ้ถาม เข้ามาทำในที่เกิดเหตุของเรา เราก็พายายไปหาหมอ ก็จบไปที่ว่ายายเย็บไป 6 เข็ม จากนั้นวันรุ่งขึ้น เราก็เรียกลูกน้องเรามาคุย พาพี่ที่รู้จักเข้ามา มาอาละวาดอะไรที่นี่กัน เราก็ไล่ออกไป พอวันรุ่งขึ้นเราก็เรียกคนขับรถของเรามา ก็คือลูกชายของยาย เรียกมาคุยว่าจะจัดการยังไง ดูแลยังไง เขาก็บอกว่าไม่มีคนดูแล ก็เลยให้ลูกน้องอีกคนพายายไปหาหมอให้ แล้วก็ให้คนที่ทำแม่เขารับผิดชอบ พอกลับมาประมาณเที่ยงคืนกว่า เขาก็เข้ามาเอารถมาเก็บ แล้วถีบรถออกไป แล้วเราก็โทรถามเขาว่าจะไปไหน ลูกชายเขาบอกว่าจะพาแม่ไปแจ้งความแม่โดนทำร้าย พอพายายไปรพ.อีกก็เย็บอีก 4 เข็มก่อนหน้านี้ยายมีร่องรอยถูกทำร้าย มีบาดแผลประจำ แต่เราก็ไม่เห็นว่าใครทำ เคยมีที่หนักๆ จะช่วงที่หน้าบวม เดือนที่แล้วคือหนักเลย เพราะช่วงนั้นไม่มีใครอยู่ที่ลาน หนักสุดก็คือ 2 เดือนหลังนี้ ส่วนตัวคิดว่ายายโดนทำร้ายแน่นอน เพราะหมอเขาก็ฟันธงว่าถูกทำร้ายแน่นอน แต่ตามตัวไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร


ขณะที่ นาง ศรีนวล นามวงค์ อายุ 55 ปี เล่าว่า ทางลูกสะใภ้เขามาก็จะมาทะเลาะเอะอะตลอด จนคนงานคนอื่นไม่ได้นอน ก็เลยไล่ออกไป ส่วนลูกชายเขา เขาก็เอาแม่มาดูแลที่ยี่ เขาก็ออกไปขับรถทำงาน บางดีก็กลับดึก บางทีก็มารับแม่ออกไปก็เลยมีการคุยกับลูกชายยายว่า จะมาทิ้งแม่ไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้องหาคนดูแล เพราะมันอันตราย บ้านพักคนชราก็ได้ หรือญาติพี่น้องช่วยรับเลี้ยงก็ได้ แล้วก็ส่งเงินให้เขา เขาก็บอกว่า ไม่มีใครช่วยเลี้ยง อย่างเมื่อคืนเขาขับรถเทรนเลอออกไป ไม่รู้เขาไปไหน โทรถามเขาก็บอกว่าจะไปแจ้งความ เราก็เลยบอกเขาให้เอารถมาเก็บ แล้วเอารถปิกอัพไป ไปแจ้งความ ไปส่งรพ. ส่วนตัวอยากให้มีหน่วยงานมาช่วยยาย เพราะกลัว ยายโดนทุกวันแบบนี้ แล้วการที่ยายนอนอยู่ห้อง เราไม่รู้ว่าด้วยอายุของยาย เขาจะเจ็บปวดมากขนาดไหน กลัวว่าเขาจะช็อค กลัวจะถึงแก่ชีวิต

เบื้องต้นขบวนการหลังจากนี้ ทางด้าน พม.จังหวัดสมุทรปราการ เตรียมช่วยเหลือคุณยายในระยะยาวเพื่อสวัสดิ์ภาพและความคุ้มครองตามสิทธิ์ โดยอาจจะรับตัวคุณยายเข้าสู่บ้านพักคุ้มครองสิทธิ์ต่อไป


********************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ