ข่าวพาดหัว

หนุ่มวัย 21 ปี ขวัญผวา ร้องสื่อตอนเที่ยงคืน โดนวัยรุ่นนับสิบ ขี่รถ จยย พร้อมอาวุธครบมือ ตามไล่ยิง ถึงหน้าบ้าน หวั่นไม่ปลอดภัย ( มีภาพกล้องวงจรปิด )

วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เวลา 00.00 น.

หนุ่มวัยรุ่นอายุ 21 ปี ร้องสื่อตอนเที่ยงคืน เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยมีวัยรุ่นนับ 10 คนพร้อมอาวุธครบมือ มีทั้งมีด ท่อนเหล็ก และมีปืน อีกด้วย ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาถึงหน้าบ้านพร้อมตะโกนด่าทอต่างๆนาๆ แล้วยังโชว์ปืนขึ้นมาให้เห็นแบบจะๆ และยังไม่พอมาทุบรถจักรยานยนต์ของตนที่จอดเอาไว้หน้าบ้านจนพังเสียหายทั้งคัน ซึ่งไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนเลย แต่อยู่ๆกลับมาขี่รถไล่ยิงตนถึง 8 นัด โชคดีที่ตนกับแฟนสาวไม่เป็นอะไรหนีเข้าบ้านทัน แต่รถจักรยานยนต์ของตนที่จอดเอาไว้หน้าบ้านต้องพังเสียหายทั้งคันนี่แหละที่ งง หนักมากไปใหญ่ว่าทำไมถึงมาทำแบบนี้ แจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าต้องนอนผวาทุกคืน แล้วยังมีแก๊งค์วัยรุ่นกลุ่มเดิมยังมาขับรถจักรยานยนต์วนเวียนหน้าปากซอยบ้านตลอด ตนกับครอบครัวกลัวมาก กลัวชีวิตและทรัพย์สินจะไม่ปลอดภัยวัยรุ่นกลุ่มนี้ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง แล้วอย่างงี้จะต้องทำอย่างไร คิดอะไรไม่ออกก็เลยตัดสินใจร้องสื่อให้นักข่าวช่วยด้วยเผื่อจะเป็นกระบอกเสียงให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมแก๊งค์เด็กวัยรุ่นพวกนี้ให้มารับโทษตามกฎหมายให้ได้โดยไวเพราะชีวิตของคนในครอบครัวตอนนี้ทุกคนกลัวมาก กลัวความไม่ปลอดภัย กลัวว่าวันหนึ่งต้องเดินโผล่ออกไปหน้าบ้านแล้วจะโดนยิงตายไม่รู้ตัว ฝากใครได้บ้างช่วยจัดการ ช่วยติดตามให้หน่อย

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวดึกดื่นเที่ยงคืนอย่างไรก็ต้องลงตรวจสอบพื้นที่ทันที

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึงบ้านเลขที่ 225 / 1 หมู่ 4 ซอย สุขสวัสดิ์ 64 แยกย่อยซอยที่ 10 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของ สน.ราษฎร์บูรณะ บ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านเดี่ยวกึ่งโรงงาน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด แล้วได้พบกับผู้ร้องเรียนชื่อ นาย เอ ( นามสมมุติ ) อายุ 21 ปี พร้อมแฟนสาว ชื่อ นางสาว บี ( นามสมมุติ ) อายุ 21 ปี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัวมีอาการตัวสั่นจนเห็นได้อย่างชัดเจน บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ในช่วงเวลา 02.30 น. นาย เอ และ นางสาว บี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแถวประชาอุทิศ พอเสร็จจากธุระแล้วก็ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีบลอนท์เทา ทะเบียน 7 กศ 9715 กรุงเทพมหานคร ผ่านเข้ามาภายในซอยประชาอุทิศ 69 ซึ่งเป็นซอยทางลัดที่จะวิ่งทะลุออกไปทางซอยสุขสวัสดิ์ 64 ได้ เมื่อผ่านเข้ามาตรงบริเวณทางแยกภายในซอยก็ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มได้มีเรื่องกันมาก่อนหน้าที่ตนจะมาถึงอยู่ก่อนแล้ว และตนก็ยืนยันได้เลยว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มมาก่อนเลย พอตนผ่านมาเห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นกำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสามครั้ง ตนก็พยายามที่จะขับหลบออกมาแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านให้เร็วที่สุดแต่ว่าหันไปอีกทีก็มีวัยรุ่นประมาณ 8-9 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามตนมา ตนก็พยายามเร่งเครื่องหลบหนีเพราะเห็นว่ากลุ่มที่ตามตนมามีอาวุธเป็นมีดดาบยาว และท่อนเหล็ก แล้วบางคนในกลุ่มยังมีอาวุธปืนอีกด้วย ต่อมาตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นถึง 8 นัดไล่หลังตนมา คือเขายิงมาที่ตนกับแฟน แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ พอมาถึงบ้านตนก็รีบวิ่งพาแฟนเข้าไปหลบในบ้านโดยที่จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งเอาไว้หน้าบ้านเพราะเก็บรถเข้าบ้านไม่ทันจริงๆ คือตอนนั้นต้องเอาชีวิตรอดเอาไว้ก่อน พอปิดประตูได้ ก็เป็นจังหวะเดียวกับกลุ่มวัยรุ่นตามมาถึงพอดี กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเข้ามาภายในบ้านไม่ได้ก็ยืนตะโกนด่าอยู่หน้าบ้าน พร้อมทั้งใช้อาวุธมีดฟันที่รถจักรยานยนต์ของตนจนได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นเป็นจังหวะที่น้องชายของตนซึ่งได้ยินเสียงดังก็เปิดหน้าต่างห้องออกมาจากชั้นที่ 2 ของตัวบ้านแล้วตะโกนบอกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวว่าอย่าทำรถ หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น จึงคว้าปืนขึ้นมาแล้วชี้ปืนไปที่น้องชายของตน เมื่อน้องชายจนเห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวชี้ปืนขึ้นมาจึงหลบเข้าไปภายในห้อง และเมื่อกลุ่มวัยรุ่นได้ฟันรถจนหน่ำใจแล้วจึงได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป โดยได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านที่บันทึกภาพเอาไว้ได้เปิดให้กับผู้สื่อข่าวดูพร้อมทั้งชูใบแจ้งความเอาไว้ในวันและเวลาดังกล่าวที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ให้กับผู้สื่อข่าวดูอีกด้วย

และจากการสอบถาม น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 21 ปี บอกเล่าว่า ตนซ้อนมากับแฟน ซึ่งขี่รถมาจากทาง ซอยประชาอุทิศ 69 กำลังจะกลับเข้าบ้านในซอยสุขสวัสดิ์ 64 แยก 10 ซึ่งเป็นทางถนนในซอยเชื่อมต่อมาจากซอยประชาอุทิศ 69 เพราะตนกับแฟนขี่กลับมาจากแมคแวลู่ ซึ่งตนก็จะใช้ถนนในซอยนี้กลับเป็นประจำ แล้ววันเกิดเหตุ ตนกับแฟนขี่ซ้อนกันมาถึงทางแยกเลี้ยวที่จะออกซอยประชาอุทิศ 33 ก็เห็นมีกลุ่มวัยรุ่นขี่ไล่ตี หรืออะไรกันมา ตนไม่แน่ใจ เพราะตนไม่รู้จัก ตนจะกลับบ้านอย่างเดียวเพราะมันดึกแล้ว ประมาณ ตี 2 เกือบตี 3 แล้ว พอเห็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นไล่ตีกัน ตนก็ได้ยินเสียงดัง ทั้งเสียงปืนและเสียงเหมือนเหล็กกระทบกัน มาถึงทางที่จะเลี้ยวขวาไปทางซอยประชาอุทิศ 69 แยก 22 แต่ไม่ได้เลี้ยว ไล่กันไปทางตรงที่จะออกซอยสุขสวัสดิ์ 64 ช่วงนี้มีรถมอไซค์ ซ้อน 3 กันมาคันนึง ซึ่งแซงหน้าตนไป แล้วตนก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 64 แยก 10 ซึ่งเป็นทางเข้าบ้านตน แต่กลุ่มนี้ก็เปลี่ยนทิศทางมาไล่ยิงตนกับแฟนแทน ซึ่งตอนนั้นตนหันไปเห็นมันขี่ไล่และถือปืนยิงตามหลังตนมา ตนก็บอกแฟนว่า มันตามเข้ามาจะถึงแล้ว แฟนก็รีบขี่เข้าบ้าน พอถึงหน้าประตูบ้านก็รีบไขกุญแจ เพื่อหนีเอาตัวรอดก่อน รถจึงเปิดประตูใหญ่เข็นเข้ามาไม่ทัน พอตนเข้ามาในบ้านปิดประตูแล้ว ก็ได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมาอีก แล้วก็ได้ยิงเสียงปืนด้วย เสียงดังมาก จนน้องแฟนเปิดหน้าต่างจากชั้น 2 มาดูว่ามีอะไรกัน แล้วเห็นว่ากำลังตีรถมอไซค์แฟนตนอยู่จึงตะโกนลงมาว่า อย่าตีรถ แล้วมีคันนึงซึ่งเอาปืนชี้ขึ้นไปทางน้องแฟนที่หน้าต่างชั้น 2 แล้วก็ตะโกนประมาณว่า “อยากแดกลูกปืนหรอ” แล้ว ก็พากันถอยๆ ออกไป ตนกับแฟนก็ยังกลัวกันอยู่ ไม่กล้าจะออกไปไหนกัน เพราะก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แล้วรู้จักบ้าน รู้ทะเบียนรถ กลัวว่าจะกลับมาทำร้ายอีก ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย และไม่เคยมีเรื่ิองอะไรกับใคร จะว่าจำผิดตัวก็ไม่น่าจะใช่ เพราะวันนั้นตนก็ใส่เสื้อแขนยาวลายดอกซึ่งบ่งบอกว่าเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ที่เห็นๆก็มากันประมาณ 8-9 คน ต่างคนก็มีถือติดมือกันมา ทั้งมีดยาว ทั้งปืน ส่วนเสียงปืนตนได้ยิงตอนทางแยกที่เจอก็ประมาณ 3 นัด ระหว่างเข้าซอยก็ประมาณ 7-8 นัดได้ ได้ยินเสียงตามหลังมา แต่ก็ไม่ได้โดนตน เพราะหลังจากเข้าบ้านแล้วตนก็ไม่มีบาดแผลหรือเจ็บตรงไหน แล้วถ้าเกิดโดนตนหรือแฟนขึ้นมา จะทำยังไง หลังจากที่ตนหนีเข้าบ้านก็รีบโทรแจ้ง 191 เลย ตำรวจก็มาและถ่ายรูปไป ตนก็ไปแจ้งความที่ สน. และก็ไปที่ห้องสืบ แต่ตำรวจก็ดูไม่ได้ใส่ใจหรือพูดบอกอะไร เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตนก็เอาให้ดู ก็เห็นพฤติกรรมอยู่ชัดเจน ก็อยากจะให้ตำรวจช่วยดำเนินเร่งติดตามคดีให้เร็วที่สุด เพราะหลังจากเกิดเหตุ ตนใช้ชีวิตลำบากมาก อยู่อยากหวาดระแวง ต้องลางาน เพราะกลัวจะย้อนกลับมาอีก เพราะรู้จักบ้านแล้ว ไม่รู้ว่าที่ไล่ยิงตนมาเพราะสุ่มหรือ คิดว่าเป็นพวกเดียวกับคู่อริ หรือเมายา หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ตนกับแฟนไม่เคยรู้จักหรืออะไรกันมาก่อนเลย แค่ตนจะขี่รถกลับบ้านแต่มาเจอเหตุการณ์นี้เท่านั้น

ทั้งนี้ นาย เอ และ นางสาว บี ได้ขอร้องให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงบอกไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่าช่วยจับคนร้ายกลุ่มนี้มาให้ได้ไวๆหน่อยเพราะตอนนี้คนในครอบครัวของตนกินไม่ได้นอนไม่หลับขวัญผวากันไปหมดแล้ว ส่วนตน กับ แฟน ก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนเลยใช้ชีวิตไม่ได้เลย จึงอยากจะให้ตำรวจช่วยเหลือตนและครอบครัวด้วย แล้วชาวบ้านแถวนี้ก็มาบอกว่าเห็นกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุยังขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่ภายในซอยเป็นประจำแล้วยังประกาศล่าตัว นาย เอ และ นางสาว บี อีกด้วย แบบนี้กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้เขาไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยจริงๆ