เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2567
ร้อยตำรวจโท ภูริวัจน์ จิระอัคราทัศน์ รอง สว.สอบสวน สน.ยานนาวาได้รับแจ้ง เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้สองชั้น ซึ่งปลูกติดกันในซอยจันทร์ 42 ลักษณะคล้ายเป็นชุมชน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุงออกมาจากบ้านเลขที่ 363/1 ซอย จันทร์ 42 ถนน จันทร์ แขวง ยานนาวา เขต สาทร กรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านไม้ สองชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้นที่สองของบ้านหลังดังกล่าวและ ลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังบ้านข้างเคียงซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้สองชั้นเหมือนกัน เจ้าหน้าที่จึงประสานรถน้ำจำนวนกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบบ้านไม้ต้นเพลิงดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนอีกหนึ่งหลังที่ติดกันก็ไดรับความเสียหายไปประมาณ 50 เปอร์เซนของตัวบ้าน และจากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้วไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว
หนึ่งในผู้อาศัยที่สามารถหลบหนีออกมาได้ทัน ชื่อ นาง โสพารักน์ อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ขณะนอนหลับหนีเพื่อนบ้านตะโกนเรียกว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงตื่นและออกมาดูที่ด้านหน้าห้องพบต้นเพลิงเกิดที่บริเวณห้องพักริมบันไดชั้นสอง ก่อนที่เพลิงจะลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถหยิบสิ่งของมีค่าและเสื้อผ้าออกมาได้ทัน
ส่วนทางด้าน คุณ พวงเพชร ฝากาทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสาทร ลงพื้นที่มาตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่า ลักษณะของบ้านหลัง ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีการแบ่งเป็นห้องให้เช่าทั้งหมด ประมาณ 13 ห้อง มีครอบครัวและผู้พักอาศัยอาศัยอยู่ทั้งหมด 7 ครอบครัว เบื้องต้นพบ ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายทั้งหมด
สำหรับครอบครัวของผู้ประสบภัยทั้งหมด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตสาทร ได้ประสานวัดบรมสถลหรือวัดดอน เพื่อขอใช้พื้นที่ ให้ผู้ประสบภัยได้พักพิงเป็นการชั่วคราว ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยจะมีการเรียกเจ้าของห้องต้นเพลิง ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าตัวไม่อยู่ภายในห้องพักเนื่องจากออกไปทำงานที่สะพานปลา มาสอบปากคำ อย่างละเอียดต่อไป
