วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.40 น.
พันตำรวจตรี วิเชน หอมสุวรรณ สว.สอบสวน สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุบริเวณใกล้เคียงปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 4 จึงรีบรุดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนน จรัญสนิทวงศ์ ใกล้เคียงปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอยที่ 4 แขวง วัดท่าพระ เขต บากอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะถนน 3 เลน จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเลนที่ 3 ก่อนถึงทางลงอุโมงค์ท่าพระ 200 เมตร ทิศทางมุ่งหน้า ถนน รัชดา ท่าพระ บริเวณเลนที่ 3 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 23 ปี ทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหารของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในสภาพมีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก มีบาดแผลบริเวณหางคิ้วด้านซ้ายและมีบาดแผลถลอกบริเวณใบหน้า มีเลือดไหลออกทางจมูกและปาก บริเวณร่างกายพบบาดแผลถลอกหลายแห่ง ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อสเวตเตอร์ แขนยาวสีดำแบบมีฮู้ด กางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะสีดำ ที่ด้านข้างผู้เสียชีวิตพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX สีขาว ทะเบียน 9 กท 4941 กรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงคว่ำอยู่กับพื้นถนนได้รับความเสียหายยับเยินทั้งคัน จากการตรวจสอบภายในรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต พบมีดปลายแหลมด้ามจับสีแดง 1 เล่ม นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน กุญแจรถจักรยานยนต์ และกุญแจบ้าน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยเงิน 1 เส้น แหวนเงิน 1 วง เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมเอาไว้เพื่อส่งมอบคืนให้กับญาติ ถัดมาตรงบริเวณทางขึ้นอุโมงค์ท่าพระ พบรถพ่วง 18 ล้อ จอดอยู่ 1 คัน เป็นรถพ่วงยี่ห้อ อีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน หัวพ่วง 83-8087 นนทบุรี ส่วนลูกพ่วงทะเบียน 83-8088 นนทบุรี จอดนิ่งสนิทอยู่กับที่โดยมีผู้ขับขี่รถพ่วงคันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณที่เกิดเหตุโดยไม่ได้หลบหนีไปไหนผู้ขับขี่เป็นชาย อายุ 35 ปี ส่วนตรงบริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซอย 4 พบกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ นิสสัน juke สีน้ำเงิน ทะเบียน 3 กญ 3776 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่ตรงบริเวณดังกล่าวโดยมีผู้ขับขี่รถยนต์เป็นผู้หญิง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณที่เกิดเหตุเช่นเดียวกันโดยไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลใดๆทั้งสิ้น
และจากการสอบถาม คนขับรถพ่วง บอกเล่าเหตุการณ์ว่า ตนขับรถมาจากบ่อบำบัดบางขุนนนท์ จะได้พระราม 3 ตนมาทางเลน 3 เพื่อที่จะลงอุโมงค์ จังหวะนั้น มีรถ 2 แถว อยู่เลน 2 เค้าชะลอจอด ตนก็ชะลอ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าชนหรือเหยียบอะไร ตนก็มุงหน้าลงอุโมงค์ไป จนกระทั่งโผล่ขึ้นอุโมงค์มา ก็มีมอไซค์ ขี่ตามไปบอกว่า ตนชนรถมอไซค์ ตนก็วนรถกลับมาแล้วมาจอดอีกฝั่งนึง พอดี ตำรวจตามไปตนจึงจอดรถพ่วงไว้ เพราะตรงจุดเกิดเหตุไม่มีที่จอดรถใหญ่ แล้วตนก็มาดูที่เกิดเหตุ เห็นมีรถเก๋งก็บอกว่า รถมอไซค์ไปโดนรถเค้าด้วย แต่ตอนนั้น ตนก็ไม่เห็นรถมอไซค์เหมือนกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวแล้วพบว่ารถจักรยานยนต์ได้ขับขี่มาบริเวณเลนที่ 3 มุ่งหน้าไปทางแยกท่าพระ มาถึงบริเวณดังกล่าวได้มีรถพ่วงขับมาอยู่ก่อนแล้วและรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้ขับขี่แทรกกลางระหว่างรถพ่วงกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และเกิดเสียหลักล้มไปโดนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แล้วหลังจากนั้นก็เห็นว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีอาการเหมือนกับเหยียบอะไรซักอย่างจนรถถึงกับกระเด้งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งจากทางแพทย์นิติเวช แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป