วันที่ 25 กรกฎาคม 2567ณ .ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลช้างแรก ตำบลข้างแรกอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นายมานิมิต วงศ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อยเป็นประธานเปิดการประชุมขับเคลื่อนเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยมีนายโชติเงินแทงรองประธานสภาเกษตรกรกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดการประชุมขับเคลื่อนเครือข่ายผู้แทนประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในครั่งนี้ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทุกอำเภอหัวหน้าส่วนราชเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เครือข่ายผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้านระดับตำบลระดับอำเภอบางสะพานน้อยและผู้มีเกียรติร่วมประชุมในครั้งนี้
โดยมีน.ส.นิชาภา สุวรรณนาค สมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบคีรีขันธ์และคณะหัวหน้าส่วนราชการ
ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายธีรวัฒน สุขจันทร์นายกองค์การตรวจบริหารตำบลช้างแรกอำเภอบางสะพานน้อย พร้อมเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล อำเภอ กิจกรรมขับเคลื่อนเกษตรกรจังหวัดประจวบครีขันธ์การสร้างเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล เป็นกลไกในการรับฟังความคิดเห็น สะท้อนปัญหา เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาการเกษตร โดยเชื่อมโยงกับสภา
เกษตรกรจังหวัดและสภาเกษตรกรแห่งชาติ หรือการเชื่อมโยงจากล่าง สู่บน โดยสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สร้างเครือข่ายผู้แทน
เกษตรกรระดับหมู่บ้าน และระดับตำบล เมื่อปี พ.พ.ศ. 2554 ได้หมด
วาระลงเมื่อ ปี 2566 และปีนี้ สภาเกษตรกรจังหวัดได้ดำเนินการสรรหาเครือข่าย ทั้งสิ้น 438 คน โดยอำเภอบางสะพานน้อย มีเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน 41 คน และผู้แทนเกษตรกรระดับตำบล5 คน
สภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้จัดทำกิจกรรมเคลื่อนเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรจังหวัดประจวบศีรีชันธ์ ประจำปี
567
ด้านนายนันทปรีชา คำทอง ประธานคณะทำงานแก้ไขที่ดิน น้ำและองค์กรเกษตรกรรมอื่นๆ ในสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ได้สมาชิกวุฒิสภามีสายเลือดเกษตรกร เป็นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงมารับฟังปัญหาเพื่อร่วมกันแก้ไขในครั้งนี้ ก็ขอฝากท่านสมาชิกวุฒิสภาว่า สิ่งที่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดคือการขับเคลื่อนองค์กรในสภาเกษตรเอง ทั้งระดับชาติ และระดับจังหวัด ขอฝากประเด็นที่ 1 คือปัญหาในพื้นที่ฝากท่านสมาชิกวุฒิสภาเข้าไปดำเนินการผลักดันขับเคลื่อนในเรื่องการทำยุทธศาสตร์น้ำ ซึ่งภาคการเกษตร ปศุสัตว์ พืชไร่ พืชสวนหรือประมง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแหล่งน้ำที่เพียงพอ
ปัจจุบันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องยุทธศาสตร์น้ำ แต่ก็ยังประสบปัญหาภัยแล้งทุกปี ไม่ใช่แต่เฉพาะพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เกิดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะจัดการบริหารอย่างไรในเรื่องแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพดังกล่าว ประเด็นที่ 2 อยากจะฝากเรื่องสิทธิในที่ดินทำกินของพี่น้องชาวเกษตรกรจะดำเนินการอย่างไร ประเด็นที่ 3 อยากให้ท่านสมาชิกวุฒิสภาช่วยประสานสำนักงานการยางแห่งประเทศไทยให้เพิ่มพื้นที่สาขาขึ้นในพื้นที่อำเภอบางสะพาน เพราะพี่น้องเกษตรกรเราได้เรียกร้องไปเป็นจำนวนมาก เพราะปัจจุบันมีสำนักงานการยางอยู่พื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเพียงแห่งเดียว ซึ่งระยะทางไกลเป็นร้อยกิโลเมตร ไม่มีสำนักงานสาขาในพื้นที่ จึงขอให้เพิ่มสำนักงานสาขาขึ้น เพื่อเกษตรกรเราจะไม่ต้องเดินทางไปไกล เพราะพื้นที่เกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย เป็นพื้นที่สวนยางพาราเป็นส่วนมากประมาณ 80% เพื่อพัฒนารายได้ เพิ่มศักยภาพเกษตรกรให้มีคุณภาพมากขึ้น และขอให้หน่วยงานต่างๆเข้ามาดูแลช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง
ส่วน น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค สมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า
วันนี้มาร่วมประชุมกับสภาเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่อำเภอบางสะพานน้อย เพื่อรับทราบปัญหาของเกษตรกร มีหลายประเด็นที่จะต้องหาทางแก้ไขช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ดิน เรื่องของแหล่งน้ำ เรื่องของราคาพืชผลที่ไม่แน่นอน และพืชที่ล้นตลาดนั้น ต้องแก้ปัญหาโดยใช้คนรุ่นใหม่เข้ามาปรับปรุงโครงสร้าง แก้ปัญหาเทคโนโลยี ปัญหาในเรื่องของการแปรรูป การเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้ต้องมีการผสมผสานความคิดของคนรุ่นใหม่ และใช้ภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่ามาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด ปัญหาหลักคือองค์ความรู้ที่จะลงไปถึงตัวเกษตรกรเอง ต้องมีการเข้าถึงแหล่งความรู้ แล้วนำไปพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเกษตรกรเอง และปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่ การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาให้มากขึ้นแล้วมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ปัญหาต่างๆที่เกินจากตัวเกษตรกรก็จะน้อยลงในที่สุด น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค สมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบคีรีขันธ์ป้ายแดง กล่าว
พิสิษฐ์ รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน