รมช.พณ. สุชาติ หารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดในภาคตะวันออก พิจารณา ร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 –2570 เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศ และบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีเป้าหมายเดียวกัน 5 ด้าน เพื่อพัฒนา ส่งเสริม ยกระดับ และแก้ไขปัญหาของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า
วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานหารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดในภาคตะวันออก ณ จังหวัดชลบุรี ว่า “ตนได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ให้เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 –2570 โดยการประชุมครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศให้เป็นเอกภาพ รวมทั้งมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวเพื่อให้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนา ส่งเสริม ยกระดับ และแก้ไขปัญหาของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยได้มีการร่างแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วยข้อเสนอสำคัญ 5 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย โดยมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลก เพิ่มสัดส่วนการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการในไทย ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการค้ากับคู่ค้า FTA
2. การพัฒนาการค้าของ SMEs โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 40% ต่อ GDP และมูลค่าส่งออกของ SMEs อยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวม
3. การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร โดยมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรให้เติบโตมากกว่าปัจจุบัน
4. การค้าสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ผลิตภาพรวม และมูลค่าการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม
5. การค้าธุรกิจบริการ โดยมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจบริการผ่านการค้าทั้งภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนลดข้อจำกัดทางการค้าของภาคบริการ
นายสุชาติฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของการวางแผนขยายตลาดใหม่ในการส่งออกสินค้าเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศที่มีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการมีความจำเป็นที่จะได้รับคำปรึกษาหรือคำชี้แนะที่เหมาะสมในเรื่องของข้อมูลตลาดส่งออกของประเทศต่าง ๆ ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ มองว่าการทำงานในรูปแบบบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกระหว่างทูตพาณิชย์จากทั่วโลกร่วมกับผู้ประกอบการจะทำให้การวางแผนสำหรับการขยายตลาดมีข้อมูลเพียงพอในการปฏิบัติงานและดำเนินการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
การจัดประชุมรับฟังร่างแผนปฏิบัติการฯ มีการดำเนินการมาแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น อยุธยา และในวันนี้ (31 ก.ค. 67) ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนปฏิบัติการฯ ที่มีหน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐจาก 8 จังหวัดเข้าร่วม ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว ในการประชุมครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้กล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเข้ามารองรับการผลักดันทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ในขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ต่างแสดงความเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2570 ให้มีความสมบูรณ์ รอบด้าน ทันต่อบริบทการค้าของโลกสมัยใหม่ และจะนำเสนอแผนปฏิบัติการฯ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
วิศาล แสงเจริญ
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชลบุรี