เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่กลางทะเล บริเวณปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ พร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบ
บริเวณจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต อยู่เวลากลางทะเลา ตำรวจน้ำ และ กู้ภัยบัวหลวง ต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทของตำรวจน้ำไปกลางทะเล พบ ร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในทะเล ลักษณะคว่ำหน้า ยังสวมชุดนักประดาน้ำครบชุด พร้อมถังออกซิเจน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปจุดที่พบร่าง ก่อนทำการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต นำมากลับขึ้นฝั่งที่ ท่าเรือองค์การสะพานปลา สมุทรปราการ เบื้องต้นทราบชื่อ นายสุทธนา วรรณธนาพงศ์ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นนักประดาน้ำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสูญหายขณะดำน้ำลงไปทำความสะอาดใต้ท้องเรือสินค้า ที่ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เมื่อประมาณ 7 วันก่อน หรือ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นมีคลื่นลมและกระแสน้ำแรง จนทำให้ผู้เสียชีวิตหลุดออกจากทุ่นเกาะสูญหาย โดยที่ก่อนหน้าที่จะพบร่างทางเพื่อนร่วมงานได้มีการประกาศตามหาในโลกโซเชียลตลอด โดยจากการตรวจสอบถังอากาศที่ติดตัวผู้เสียชีวิตนั้น ยังพบ อากาศ อยู่ในถังอีก 70 psi จากที่เต็มถึง 220 psi หลังจากพบร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนฝั่งได้ไม่ได้นาน ได้มีเพื่อนร่วมงานมาดูศพ แต่พอเห็นอุปกรณ์ประดาน้ำ ก็ถึงกับเข่าอ่อนลงไปนั่งร้องไห้กับพื้น จนเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องช่วยกันพยุงขึ้นมานั่งบนรถเข็นเตียงฉุกเฉินประจำรถมูลนิธิ
จากการสอบถาม นายประเสริฐ เหล่ายมขาม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีศพลอยน้ำ เลยนำเรือมารับ ช่วงที่เจอศพอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลรามาฯ ลักษณะที่เจอศพนอนคว่ำหน้า สวมชุดประดาน้ำ ก็เลยทำการปลดอุปกรณ์และชุดประดาน้ำออกก่อนเพราะมันมีน้ำหนักเยอะแล้วจึงนำศพขึ้นมาได้
ด้าน นายสมชัย แสงทอง เพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับผู้เสียชีวิตทำงานด้วยกัน วันนั้นเขาลงน้ำก่อนตน ตนลงตามไปติด ๆ แต่ก็แยกกันไป ตนไปท้ายเขาไปหัว ตนก็ทำงานของตนไป พอดูอากาศของตัวเองว่าใกล้หมดก็ขึ้นมา พอขึ้นมาเขาก็ยังไม่ขึ้น ตนก็ไปถามเพื่อนร่วมงานอีกคนว่าเห็นเขาขึ้นมาหรือยัง ก็บอกว่ายังไม่เห็นขึ้นมา วันนั้นกระแสน้ำค่อนข้างแรงด้วย
นายสมชัย เล่าต่ออีกว่า ตอนลงไปทำงานก็แยกย้ายกันไป แต่จุดที่เขาอยู่ มีบัดดี้ 3 คน ประกบหน้าประกบหลังส่วนเขาอยู่ตรงกลาง ตอนแรกได้รับแจ้งจากพี่บนเรือว่าเขาขึ้นมาก่อนในรอบแรกเพราะอากาศจะหมด พอขึ้นมาเปลี่ยนถัง เขาก็ลงไปใหม่ พอรอบสอง เขาก็ขึ้นมาอีก มาเจอกับตน เพราะอากาศตนหมด ตนก็ขึ้นมาเปลี่ยนถัง แล้วก็ลงไปพร้อมกัน เขาลงก่อน ตนลงตามหลัง ตนก็เห็นว่าเขาขึ้นไปทางหน้าเรือ ส่วนตนลงไปทางท้ายเรือ พอสักพักอากาศของตนหมด ตนก็ขึ้นมาเปลี่ยนถัง และคนที่ทำงานเป็นบัดดี้กับเขาก็ขึ้นมากันหมดแล้ว เหลือแค่เขาที่ยังไม่ขึ้น ตนก็เลยถามว่าเขาอยู่ไหน ก็ได้คำตอบว่าไม่เห็น เหมือนกับว่าตอนที่เขาลงไปรอบสุดท้ายเขาไปไม่ถึงเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ก็เลยไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ วันนั้นทำงานกันทั้งหมด 7 คน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนของเขามีคนประกบหน้าประกบหลัง เหมือนกับว่ารอบล่าสุดที่เขาขึ้นมาเปลี่ยนถัง เขาไม่รอบัดดี้ เพราะปกติต้องรอบัดดี้ เพื่อที่จะลงไปพร้อมกัน วันนั้นพายุเข้ามีลมแรง ส่วนถังอากาศของเขาที่เจอวันนี้ก็ยังมีอากาศเหลืออยู่ประมาณ 70 pcs แต่ปริมาณอากาศเท่านี้ก็ไม่สมควรลง สำหรับนักดำน้ำมือใหม่ เขาลงทำงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ปกติแกทำหน้าที่เป็นต้นคนเรือ ครั้งนี้คนขาดแล้วมันหาคนยาก เพราะหน้าที่นี้ต้องมีความชำนาญ ต้องเรียนดำน้ำ ต้องเรียนเกี่ยวกับใต้ท้องเรือ จากการสำรวจอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็อยู่ครบหมด ตนคิดว่าเขาตกใจสถานการณ์ใต้น้ำ แล้วก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ปกติภารกิจที่จะทำมันลีกประมาณ 12 เมตร ส่วนความลึกที่ปรากฏในเข็มอุปกรณ์ของเขา ที่เห็นว่าลงไปถึง 30 เมตร น่าจะเป็นระยะที่เขาหลุดจากทุ่นไปแล้ว ปกติอุปกรณ์พวกนี้ก็สามารถลงได้ลึกถึง 30 เมตร วันนั้นจุดที่ทำงานก็ลึกอยู่ที่ 12 เมตร ใช้เวลาทำงาน 2 วัน รอบแรกทำไปแล้ว รอบเนี่ยเป็นรอบที่ 2 ของการทำงาน วันที่เกิดเหตุพยายามค้นหากันแล้ว แต่หาไม่เจอ หาถึงตี 1 ก็ยังหาไม่เจอ วันนั้นฝนก็ตกด้วย
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปู จะได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนั้นได้มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
*****************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ