วันนี้ ( 6 ส.ค.67 ) ที่ หอประชุมสิริรำไพพรรณี อาคารเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานศาลรัฐธรรมมนูญ และ มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี ได้จัดโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามหลักนิติธรรม โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไวกูณฑ์ ทองอร่าม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี กล่าวต้อนรับ นายครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมมนูญ ประธานในพิธีเปิดโครงการฯ ตลอดระยะเวลากว่า 26 ปี ศาลรัฐธรรมนูญได้ปฏิบัติพันธกิจที่สำคัญในการรักษาความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสร้างบรรทัดฐานในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 3 วรรคสอง บัญญัติให้การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ และ ความผาสุกของประชาชนโดยรวม ด้วยเหตุนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้เหตุผลที่ปรากฏถ้อยคำในคำวินิจฉัยว่า ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรม
ตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จนถึงปัจจุบัน อาทิ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ การกระทำความผิดอาญา ต่อ พระมหากษัตริย์ หรือกระบวนการเสนอขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ การชุมนุมสาธารณะ เป็นต้น นอกจากพันธกิจดังกล่าวแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญยังได้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับการรักษาดุลยภาพ ระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยคดีให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม ตามพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกประกาศศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2566 โดยกำหนดให้มีระยะเวลาในกระบวนพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้าและทั่วถึง
วันนี้สำนักศาลรัฐธรรมนูญ และ มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จึงได้จัดโครงการนี้เพื่อมุ่งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ สิทธิ เสรีภาพ ตลอดจนการพัฒนางานทางวิชาการร่วมกันระหว่างสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สถาบันการศึกษาที่ได้จัดทำข้อตกลงทางวิชาการ และหน่วยงานของรัฐในกระบวนการยุติธรรม และกำหนดกลุ่มเป้าหมายในระดับนิสิต นักศึกษา ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการยุติธรรมในระดับจับจังหวัด ซึ่งถือเป็นกำลังหลักและเครือข่ายที่สำคัญ จะเป็นการถ่ายทอดและขยายผลองค์ความรู้ไปสู่สถาบันการศึกษาและประชาชน อันจะทำให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครองมากยิ่งขึ้น สำหรับการดำเนินโครงการในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการครั้งที่สองในปีงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2567
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี 089-6767346
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงาน ศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก 062-7584334