ข่าวประชาสัมพันธ์

ไม่คุ้ม !! แพปลา ยังไม่กล้ารับซื้อปลาหมอคางดำ แพปลา ยังไม่กล้ารับซื้อปลาหมอคางดำ เนื่องจาก ขั้นตอนเยอะ จุดนำส่งอยู่ไกล ไร้แรงงานช่วยเหลือ แต่ได้ส่วนต่างราคาเพียง 5 บาท

ไม่คุ้ม !! แพปลา ยังไม่กล้ารับซื้อปลาหมอคางดำ
แพปลา ยังไม่กล้ารับซื้อปลาหมอคางดำ เนื่องจาก ขั้นตอนเยอะ จุดนำส่งอยู่ไกล ไร้แรงงานช่วยเหลือ แต่ได้ส่วนต่างราคาเพียง 5 บาท อีกทั้งต้องสำรองจ่ายเงินรับซื้อไปก่อน ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการลงทุน วอนหน่วยงานพิจารณา ก่อนผู้ประกอบการถอนตัวหายหมด


เมื่อบ่าย วันที่ 6 สิงหาคม 2567 ที่วังกุ้ง หมู่ 5 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ดาบตำรวจดนัย กอวงษ์ พร้อมด้วยทีมงานตำรวจน้ำ จ.สมุทรปราการ ลงพื้นที่เข้าจับและซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรโดยตรง ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่กำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกร หลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ
ดาบตำรวจดนัย กอวงษ์ กล่าวว่า วันนี้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ มาทำการจับและซื้อปลาหมอคางดำ กลับไปปรุงอาหารให้กำลังพลรับประทานกัน ตามนโยบายของรัฐบาลและผู้บังคับบัญชา สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำลงพื้นที่รับซื้อสัปดาห์ละหนึ่งครั้งและให้ทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วน น.ส.อุไรวรรณ สุขพิทักษ์ อายุ 22 ปี เกษตรกร กล่าวว่า วังกุ้งของตนมีเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ ปกติจะมีกุ้งและปูอยู่เต็มบ่อ แต่ตอนนี้แทบไม่มีเหลือแล้ว มีปลาหมอคางดำมาแทนที่ ทำให้ตนกับครอบครัวเกิดความเครียดมาร่วมหนึ่งปี วันนี้ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเข้ามารับซื้อปลาหมอคางดำไปจำนวน 50 กิโลกรัม ขายได้เป็นครั้งแรกได้เงิน 1 พันบาท แต่ถ้าเลือกได้อยากให้ในบ่อ มีกุ้งกับปูมากกว่า เนื่องจากขายได้ราคากิโลกรัมละ 70-300 บาท ซึ่งมีราคาดีกว่าปลาหมอคางดำที่ขายได้เพียง 15-25 บาทต่อกิโลกรัม โดยในบ่อของตนน่าจะมีปลาหมอคางดำเหลืออยู่อีกเยอะ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐ ช่วยรับซื้อในราคาที่สูงกว่านี้คงจะดีมาก
ขณะที่ น.ส.ธนภร เจียรสุข นายกสมาคมการประมงคลองด่าน ได้นำเอกสาร ข้อมูล ระเบียบ เงื่อนไขการรับซื้อให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า การรับซื้อปลาหมอคางดำยังคงติดขัด เนื่องจากมีเงื่อนไขในการรับซื้อและการนำไปส่งขายต่อให้กับหน่วยงานภาครัฐอยู่หลายขั้นตอน จึงเป็นปัญหากับเกษตรกรที่ได้รับอนุญาตเป็นผู้รับซื้อ ยังไม่กล้ารับซื้อปลาหมอคางดำจากผู้นำมาขาย เช่น ทุกครั้งที่รับซื้อจะต้องมีประมงอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดเซ็นชื่อรับรอง และทุกครั้งที่จะนำไปส่งขายต่อให้กับหน่วยงานภาครัฐ ก็จะต้องมีลายเซ็นของผู้รับรองอีกครั้ง ส่วนการจะนำไปส่งขายให้กับหน่วยงานภาครัฐคือ กยท. หรือ การยางแห่งประเทศไทย ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีระยะทางไกลจากจังหวัดสมุทรปราการ ต้องรวบรวมให้ได้ 2-3 ตัน และต้องมีค่าจ้างแรงงานในการขนย้ายเพิ่มอีก ในขณะที่ผู้นำไปส่งขายได้ส่วนต่างเพียง 5 บาท ดูแล้วไม่คุ้มค่าการทำงานเพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยสนับสนุนเงินงบประมาณในการสำรองจ่าย เป็นเงินทุนหมุนเวียนรับซื้อก่อน แต่ถ้าบอกว่าโครงการนี้ มีไว้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้นใครไม่พร้อม
***********************
อัญมณี คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ