วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เวลา 02.26 น.
ร้อยตำรวจโท ภีมพล เชาว์ไวย์ รอง สว.สอบสวน สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาประตูรั้วโรงเรียน ภายในซอยประชาอุทิศ และภายในที่เกิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย เป็นชาย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน ประตูที่ 2 ซอย ประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น ชาย 1 ราย อายุ 22 ปี นอนหงายหน้าจมกองเลือดหายใจรวยรินตรงบริเวณเสาประตูรั้วของโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งทราบต่อมาว่าผู้ได้รับบาดเจ็บทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหารของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จากการตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ที่เบ้าตาข้างขวามีบาดเจาะลึก ขาข้างขวาเหนือหัวเข่าหักผิดรูป และมีบาดแผลถลอกตามบิเวณร่างกายหลายแห่ง สัญญาณชีพอ่อน อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR ภายในที่เกิดเหตุทันที พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินในระบบเอราวัณทันที เเละต่อมาเจ้าหน้าที่การแพทย์ในระบบเอราวัณมาถึง ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนและสุดกำลังความสามารถแล้วแต่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุตามขั้นตอน
และใกล้กับร่างผู้เสียชีวิตพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 i สีแดงคาดดำ ทะเบียน 7 ขต 8468 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงคว่ำอยู่กับพื้นถนน และที่บริเวณเสาประตูรั้วของโรงเรียนมีล่องลอยจากการถูกชนอย่างเห็นได้ชัดเจน และยังมีเสาไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับค้ำยันสายไฟฟ้าบริเวณหน้าประตูทางเข้ามีล่องลอยจากการถูกรถชนจนหักเอนเกือบโค่นอีก 1 ต้น ส่วนลักษณะการแต่งกายของผู้เสียชีวิตสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล
และจากการสอบถาม นาย เอ็ม ( นามสมมุติ ) อายุ 21 ปี เป็นเพื่อนรุ่นน้องแถวบ้านกล่าวว่า เขาไปดื่มมานิดหน่อย แล้วก็แวะกินข้าวกันพอกินข้าวเสร็จแล้ว เขาก็ออกมาก่อนตนก็ขี่รถตามมา พอขึ้นสะพานภายในซอยประชาอุทิศ 76 ก็เห็นมี รถเก๋ง ขับสวนออกมาแล้วตนก็มาเห็นว่าเขานอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้นแล้ว ตนก็จับชีพจรดูก็ยังมีอยู่นะในตอนแรก ก็เลยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนช่วยตามรถกู้ภัยให้ แล้วกู้ภัยมาถึงเขาก็พยายามช่วยแล้วแต่ไม่ทัน เขาทำงานเป็นไรเดอร์ ที่มาทางนี้เพราะบ้านเขาอยู่ในซอยนี้
และจากการสอบถามผู้ที่ผ่านทางมากล่าวว่าตนขับมาเจอเขาก็นอนอยู่ตรงนี้แล้วและกู้ภัยก็มาถึงแล้ว ส่วนรถของเขาก็อยู่บนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
และจากการสอบถาม นางสาว กนกพร อายุ 42 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูกล่าวว่า ตนมาถึงก็พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีสัญญาณชีพที่อ่อนมากแล้วแทบจะหาไม่เจอเลยด้วยซ้ำก็เลยรีบปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR ในตอนที่มาถึงไม่พบ หมวกกันน็อคตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงคาดว่าผู้ตายไม่ได้สวมใส่หมวกกันน๊อคอย่างแน่นอน ตอนที่มาถึงก็เห็นว่าเขาอยู่ในสภาพที่นอนตะแคงมีเลือดไหลออกบริเวณศรีษะและใบหน้าเยอะมาก ต้นขาข้างขวาหักผิดรูป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
