ศรชล.จับมือ 6 หน่วยงานบูรณาการตรวจโควิด 19 แรงงานในเรือประมง ยันอาหารทะเล สมุทรสาครปลอดภัย
ที่องค์การสะพานปลา ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทางหน่วยงานของ ศรชล.ภาค 1 โดยนาวาเอก เอกภาพ สายโสภา รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงานตามคำสั่งของ พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผอ.ศรชล.ภาค 1/ผบ.ทรภ.1) ดำเนินงานตรวจคัดกรองโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานภาคประมง หรือผู้ที่ทำงานในเรือประมง และเจ้าของเรือประมงแต่ละลำที่นำสัตว์น้ำทะเล มาขนถ่ายขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือใน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน รวมทั้งสมาคมการประมงสมุทรสาคร เข้าร่วมด้วย
สำหรับการปฏิบัติตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานประมง สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีพื้นที่สีแดงอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่เป็นข่าวนั้น ได้ส่งผลกระทบในภาพรวมต่อสินค้าสัตว์น้ำจืด และสัตว์น้ำทะเลของจังหวัดสมุทรสาคร เป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ผ่านมา แรงงานในภาคประมงทะเลเป็นผู้ที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด19 มาโดยตลอด ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในครั้งแรก เนื่องจากแรงงานภาคประมง จะมีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้นทั้งก่อนออกเรือ และหลังจากที่เรือเข้าฝั่ง มีการแจ้งเรือเข้า – ออก มีการตรวจสอบรายชื่อลูกเรือประมง และมีมาตรการหลายอย่างในการควบคุมแรงงานเรือประมงอยู่แล้ว ขณะที่สัตว์น้ำทะเลของจังหวัดสมุทรสาคร นับเป็นสินค้าที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 แต่เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงผู้บริโภค ทาง ศรชล.ภาค 1 โดยการควบคุมของ ผอ.ศรชล.ภาค 1 /ผบ.ทรภ.1 จึงได้ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบยกชุดใหม่อีกครั้ง ทั้งในกลุ่มแรงงานที่อยู่ในเรือประมง เจ้าของเรือประมง และแรงงานที่ปฎิบัติงานที่ท่าเทียบเรือหรือสะพานปลา อีกด้วย ซึ่งมีเป้าหมายการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานภาคประมง กว่า 2,000 คน จากเรือที่มีอยู่ประมาณ 100 กว่าลำ โดยได้ตั้งเป้าดำเนินการตรวจคัดกรองวันละ 500 คน ตั้งแต่วันที่ 25 – 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งแรงงานในเรือประมง รวมถึงเจ้าของเรือแต่ละลำ ที่ผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อบุในลำคอและการเก็บเนื้อเยื้อหลังโพรงจมูกแล้ว จะต้องนำแรงงานลงเรือกลับออกไปลอยลำอยู่ในแม่น้ำอีก 3 วัน เพื่อรอผลการตรวจจากกรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งขณะที่เรือลอยลำอยู่นั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของทหารเรือและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คอยตรวจตราด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบพบเจอกับคนบนฝั่งด้วยวิธีการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ คือ ไม่พบเชื้อทั้งหมดก็จะออกหนังสืออนุญาตให้นำเรือออกไปทำการประมงได้ แต่ถ้าผลออกมาแล้วพบว่ามีลูกเรือคนใดคนหนึ่งเป็นบวก หรือติดเชื้อโควิด 19 เรือประมงลำนั้นก็จะไม่สามารถออกไปทำการประมงได้ และทั้งหมดที่อยู่ในเรือลำเดียวกันจะต้องถูกนำขึ้นฝั่ง เพื่อส่งไปกักตัวตามระบบของสาธารณสุขต่อไป
นอกจากนี้เรือที่เทียบท่าที่องค์การสะพานปลา และลูกเรือที่ขึ้นมาตรวจหาเชื้อนั้น ขณะที่เรือปลอดคนก็จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงไปฉีดพ่นน้ำยาคลอรีน เพื่อฆ่าเชื้อตลอดทั้งลำเรืออีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่า “อาหารทะเลจาก จังหวัดสมุทรสาคร ปลอดภัยจากโควิด 19 ” อย่างแน่นอน
ภาพ/ข่าวทีมข่าวเฉพาะกิจมหาชัยสมุทรสาคร
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน
