ข่าวพาดหัว

ตำรวจสน.บางรัก วิสามัญชายพกปืนอาละวาด กลางซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ไม่อนุญาตให้ดูศพ

วันนี้ (15 ส.ค.2567 ) เมื่อเวลา 01.30 น.พ.ต.ท.ศักดิ์นรินทร์ ตรัสสุภาพ สว.(สอบสวน) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมบริเวณหน้าค้าแห่งหนึ่ง ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 เขตบางรัก จึงเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

จุดที่เกิดเหตุพบร่างชายคนหนึ่ง นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ต่อมาภายหลังทราบชื่อคือ นายมงคล ที่ตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่บริเวณใต้ราวนมซ้าย กลางลำตัว ใต้สะดือ ด้านหลังรวม 6 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้น ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 กระบอก และหัวกระสุนปืนอีกกว่า 10 นัดใกล้กับจุดเกิดเหตุพบรถ รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต จอดเปิดเบาะท้าย เจ้าหน้าที่จึงเก็บทุกอย่างไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือเจ้าหน้าที่สายตรวจนอกเครื่องแบบของ สน.บางรัก 2 นาย ที่ยืนรอมอบตัวที่จุดเกิดเหตุ โดยตำรวจทั้ง 2 นาย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากพนักงานร้านค้าว่า มีชายเมาสุราอาละวาดที่บริเวณหน้าร้าน เมื่อไปตรวจสอบ จึงพบผู้เสียชีวิต จอดรถจักรยานยนต์และ กำลังอาละวาดอยู่หน้าร้าน จึงขอตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมาย

เมื่อขอตรวจค้นในตัว ผู้เสียชีวิตกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ จนทำให้ต้องยิงตอบโต้กลับไปเช่นกัน จนสิ้นเสียงปืน จึงพบว่านายมงคล ถูกยิงเสียชีวิต

ต่อมาพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าพนักงานอัยการได้นำตำรวจทั้ง 2 นาย ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.บางรัก พร้อมตรวจคราบเขม่าดินปืนตามร่างกาย และพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ตรวจสอบ เพื่อเปรียบเทียบกับคำให้การ ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตได้นำส่งไปผ่าพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุการเสีย อย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ

นายสุขสม พี่ชาย ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า น้องชายทำงานเป็นพนักงานส่งเอก สารเพิ่งออกจากงานได้ 3 เดือน ปัจจุบันคบหากับแฟนสาวมา 7 ปี ล่าสุดทราบว่าแฟนสาวที่ทำงานเป็นพีอาร์ และมีความสัมพันธ์กับสาวอีกคนที่อยู่ในร้านค้าแห่งนี้

ส่วนปืนที่พบไม่ทราบว่าเป็นของน้องชายหรือไม่ แต่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา น้องชาย เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น แต่ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องไปแล้ว

แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจไม่อนุญาตให้ญาติเข้าไปดูศพ และห้ามถ่ายรูป ส่วนตัวมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้กับน้องชาย