อ่างทอง ภาวะแล้งและเกษตรกรหันมาขายใบตองส่งผลกระทบกล้วยน้ำว้าราคาแพง ชาวสวนเผยปลูกกล้วยน้ำว้าขายใบตองมีรายได้ทุกวัน ส่งที่ กก.ละ 14 – 16 บาท ทำให้เครือกล้วยไม่สมบูรณ์ ปล่อยขายบ้างแต่ต้องตัดต้นทิ้งเมื่อตัดเครือ
วันที่ 21 ส.ค. 67 หลังจากกล้วยน้ำว้าในตลาดมีราคาแพง ขาดแคลนในท้องตลาด ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณสวนกล้วย หมู่ที่ 1 บ้านลาว ตำบลเทวราช อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เพื่อสอบถามเกษตรกรที่ปลูกกล้วยน้ำว้าขาย ซึ่งพบว่าชาวสวนในพื้นที่ ได้ทำการตัดปลีกล้วยทิ้งเกลือบทั้งสวน เนื่องจากจะทำการตัดใบตองส่งขายตลาด ส่วนเครือกล้วยน้ำว้านั้นมีปล่อยไว้บ้าง แต่ไม่มากนักเนื่องจากไม่คอยสมบูรณ์ หลังกระทบแล้งและการตัดใบตองขาย
จาการสอบถาม คุณ วรุณ วัย 51 ปี เกษตรกรชาวสวนกล้วย เล่าให้ฟังว่า ในพื้นที่บ้านลาว ตำบลเทวราช ชาวสวนกล้วยนิยมปลูกกล้วยน้ำว้า และทำการตัดใบตองขาย ซึ่งทำให้มีรายได้ทุกวัน โดยขายส่งอยู่ที่ กิโลกรัมละ 14 – 16 บาท ที่ผ่านมานั้น ก็เกิดภาวะแล้งทำให้กล้วยในสวนได้รับผลกระทบเหี่ยวเฉาและเสียหาย ส่วนเครือกล้วยนั้นชาวสวนก็มีปล่อยไว้บ้าง แต่ไม่มากนักเนื่องจากมีการตัดใบตองขาย ทำให้เครือกล้วยไม่ค่อยสมบูรณ์แคระแกรน หากว่าตัดเครือกล้วยไปแล้ว ก็ต้องตัดต้นกล้วยทิ้งรอปลูกขึ้นใหม่ใช้เวลานาน ทำให้ชาวสวนกล้วยในพื้นที่บ้านลาว นิยมปลูกกล้วยขายใบและขายหน่อกล้วยมากกว่าขายเครือกล้วยน้ำว้า
ทางด้าน นาย ทรงยศ มะกรูดทอง อดีตกำนันตำบลเทวราช เล่าให้ฟังว่า ในพื้นที่บ้านลาว ตำบลเทวราช เกษตรกรชาวสวนกล้วยน้ำว้า ได้รวมกลุ่มกันตัดใบตองส่งขายตลาด และขายหน่อกล้วยเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวสวน ส่วนการตัดเครือกล้วยนั้นก็มีบ้าง แต่ต้องใช้เวลานานประมาณ 7 – 8 เดือน กว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาด โดยที่ผ่านมานั้นกระทบภาวะแล้ง ทำให้ให้สวนกล้วยได้รับความเสียหาย ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมากราคาปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ชาวสวนกล้วยก็เร่งตัดใบตองขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อไป
กนกศักดิ์ / อ่างทอง