พะเยา – ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงคำ ผนึกกำลัง 7 หน่วยขึ้นเขาตรวจคอกวัว ด้านน้องชายกำนันสารภาพบุกรุกป่าล้อมรั้วเลี้ยงวัวจริง !
#คลิปที่ 1
#คลิปที่ 2
เมื่อเวลา 10.00น. – 15.00น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2563 นายกษิดิศ อินปั๋น ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงคำ พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ , หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ , เจ้าหน้าที่จากกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 326 อำเภอเชียงคำจังหวัดพะเยา ( ตชด.326 ) , หน่วยป้องกันรักษาป่าและพัฒนาพะเยา 3 เชียงคำ ( พย.3 เชียงคำ ) , ตำราจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ( ตร.ปทส.พะเยา ) , เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดพะเยา , สื่อมวลชน พร้อมชาวบ้านในเขตตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ กว่า 150 คน ได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบการบุกรุกในพื้นที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ( สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ) และ พื้นที่ป่าสงวน ( หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ ) ที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ในกรณีที่ มีชาวบ้านใน 5 หมู่บ้าน 147 ครัวเรือน ในเขตตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ได้ถือป้ายประท้วงเดินขึ้นยอดเขา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง ที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และ ป่าอนุรักษ์ฯ โดยมีการว่าจ้างชาวบ้านให้ขึ้นไปล้อมรั้ว เพื่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงวัว บนยอดเขา ทั้งที่ในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้เข้าไปบุกรุกเพื่อทำไร่ทำนา และต่อมา เจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าไปยึดพื้นที่คืน ร่วมถึงแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านไปแล้วหลายราย ซึ่งแต่ละรายมีทั้งโทษจำคุก และ โทษปรับ บางรายก็ถูกฟ้องทั้งคดีอาญา และคนดีเพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย บางคนถูกเรียกปรับหลายแสนบาท
ล่าสุดเมื่อเจ้าหน้าที่และชาวบ้านขึ้นไปตรวจสอบบนยอดเขาก็พบว่ามีการสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ประเภทวัว มีร่องรอยมูลวัว และ ถังขนาดใหญ่ ที่เป็นสิ่งของแจกจากกรมปศุสัตว์จังหวัดพะเยาวางอยู่บริเวณคอกวัว พบไม้แปรรูป จำนวนหลายแผ่นวางอยู่บริเวณใกล้เคียงคอกวัว และ พบว่ามีต้นยางพารา จำนวนมากที่ปลูกอยู่บริเวณดังกล่าว มีการปักหลักทั้งเสาปูน และ เสาไม้ รวมถึงการนำลวดหนาม ไปยึดตึงกับต้นไม้แทนเสา จนเนื้อไม้งอกฝังเอาลวดหนามเข้าไปอยู่ในลำต้นลึกกว่า 2 นิ้ว และพบว่าบริเวณคอกวัว เป็นที่โล่งไม่มีต้นไม้ใดๆ ผิดกับบริเวณใกล้เคียงที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่เป็นระยะ
ซึ่งในเวลาเดียวกันได้มี นายชาญชัย อิ่นคำ ได้มาแสดงตัวว่าเป็นผู้บุกรุกมาล้อมรั้วลวดหนาม เมื่อ 2 ปีก่อน ( พ.ศ.2561 ) ซึ่งทราบภายหลังว่านายชาญชัย เป็นน้องชายของ นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง ซึ่งนายชาญชัย ได้เข้ามายอมรับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย และชาวบ้านว่า ตนเป็นผู้ล้อมรั้วลวดหนาม เนื่องจากเมื่อ 2 ปีก่อน ตนได้มาเลี้ยงวัว เลยมาล้อมรั้วเพื่อป้องกันไม่ให้วัว ลงจากเขาไปกินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งการล้อมรั้วแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นของ นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง ที่ล้อมรั้วและสร้างเป็นคอกวัว ส่วนที่ 2 เป็นของนายจรูญ ขันแก้ว ( ผู้ช่วย ) และ ส่วนที่ 3 เป็นของตน ( นายชาญชัย ) ซึ่งนายชาญชัย ให้การยอมรับ กับทุกคนว่าเป็นผู้บุกรุกมาล้อมรั้วลวดหนามในเขตป่าจริง ( ตามคลิป ที่ 2 )
ในขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานกำลังตรวจดูสถานที่ล้อมรั้วลวดหนาม และการบุกรุกที่ป่าอยู่นั้น ได้มี นายก่ำ ไกลถิ่น อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 11 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ ได้ออกมารับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่า ตนเป็นคนงานที่ขึ้นมาล้อมรั้วลวดหนาม โดยได้รับการว่าจ้างจาก นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง โดยนายก่ำ แจ้งว่าตนได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ซึ่งภายหลังจากตนถูกยึดที่ทำกินไป ก็ไม่มีที่ดินทำกินจึงต้องรับจ้างหากินไปวันๆ ซึ่งในตอนที่ไปรับจ้างก็ไม่ทราบว่ามีความผิดหรือไม่ แต่หากการรับจ้างไปล้อมรั้วในที่ป่ามีความผิดตนก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวและยอมรับผิดในการกระทำดังกล่าว
ด้าน นายกษิดิศ อินปั๋น ปลัดศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงคำ ได้กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายจากทางอำเภอเชียงคำให้มาตรวจสอบพื้นที่เกี่ยวกับการร้องเรียนของชาวบ้านว่ามีกลุ่มคนมาบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งจากการตรวจสอบ ก็พบว่ามีการสร้างสิ่งก่อสร้างคอกวัว ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ และก็มีการก่อสร้างรั้วลวเหนาม และเพิงพักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยเช่นหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ ก็จะได้ดำเนินการในการตรวจสอบพยานหลักฐานและส่งดำเนินคดีแต่ก่อนดำเนินการจะมีการตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องก่อน และในส่วนของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ก็จะดำเนินการเกี่ยวกับรั้วลวดหนาม ที่มีนายทุนมาสร้างในการทำที่เลี้ยงวัว ก็จะดำเนินการตรวจสอบ โดยทั้งหน่วยงานก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไปตามขั้นตอน
นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ได้กล่าวว่าขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงคำ ดำเนินคดี สืบเนื่องมาจากในการลงพื้นที่ได้มี นายก่ำ ไกลถิ่น ได้รับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ขึ้นมาล้อมรั้วลวดหนามบนยอดเขา โดยมี นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง เป็นผู้ว่าจ้าง และ มีนายชาญชัย อิ่นคำ ได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ลัอมรั้วเพื้อเลี้ยงวัวจริง จึงทำให้ง่ายต่อการดำเนินการเอาผิด ซึ่งในวันนี้ ( 30 ธ.ค.) จะได้ส่งสำนวน เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงคำ ได้ดำเนิน
การออกหมายเรียก นายชาญชัย อิ่นคำ มาสอบสวนก่อนเป็นคนแรก
ทั้งนี้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ จะดำเนินคดี
กับผู้กระทำความผิดอย่างที่สุดหากมีข้อมูลพยานและหลักฐาน และขอยืนยันว่า ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ จะไม่เอื้อประโยชน์ให้ใครเข้ามาทำผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างแน่นอนจึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าจะปกป้องรักษาทรัพยากรของแผ่นดินภายในตลอดไปอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดไป
ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พะเยา รายงาน