ผกก.สภ.บางปู ชี้แจงเหตุไลฟ์สดหยุดตรวจค้นวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรและไม่ติดป้ายทะเบียน
จากกรณี ที่มีการไลฟ์สดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ที่เรียกตรวจค้น วัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร มาบนถนนคลองเก้า-ตำหรุ บริเวณหน้าโรงงานเอกชนย่านคลองเจ็ด ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 เวลา 20.00 น ซึ่งจากคลิปดังกล่าวเป็นการอธิบายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ถึงเหตุผลของการหยุดรถจักรยานยนต์ตรวจค้นในครั้งนี้ ก่อนที่จะเป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย และ มีผู้เข้ามาแสดลความคิดเห็นกับเหตุการณ์นี้ และ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่
โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว บริเวณถนนคลองเก้า-ตำหรุ หน้าโรงงานเอกชนแห่งหนึ่ง คลองเจ็ด ซึ่งอยู่ระหว่างซอยสุนทรวิภาค กับ ซอยกาญจนาพันธุ์ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 200 เมตรจะมีจุดกลับรถ โดยทั้ง 2 ซอยที่กล่าวมานั้น สามารถทะลุออกได้หลายซอย และ สามารถออกถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิได้ จึงมีรถเข้าออกเป็นจำนวนมาก ก็จะมีรถจักรยานยนต์ รถยนต์ มักย้อนศรจากจุดกลับรถมาเข้าทั้ง 2 ซอย ดังกล่าว ส่วนหน้าปากซอยยังมีรถสะดวกซื้อ และ ร้านอาหารอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่รถจักรยานยนต์ย้อนศร โดยที่ ชาวบ้านแถวนั้น บอกว่า รถย้อนศรนั้นมีประจำ เจ้าหน้าที่มาเจอก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนแต่ไม่ถึงที่ขนาดจะเขียนใบสั่ง แต่ก็อยากให้หยุดย้อยศรเถอะเนื่องจากอันตรายต่อตัวเองและคนอื่น โดยจากการสังเกตนั้นก็ยังมีรถจักรยานยนต์ขี่ย้อยศรมาเรื่อย ๆๆ
ด้าน พ.ต.อ.วัชระ เทพเสน ผกก.สภ.บางปู ได้กล่าวว่าเรื่องที่มีการแจ้งเข้ามาว่ามีการไลฟ์สดทางโซเชียลตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจของ สภ.บางปู เจ้าหน้าที่คือ จ่าสิบตำรวจณัฐวุฒิษ์ มหาวงศ์ แจ้งว่าเจ้าตัวอยู่ระหว่างออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ก็เจอน้องผู้ต้องสงสัยกำลังขับรถย้อนศร เจ้าหน้าที่ขับรถไปเจอพอดี เลยมีการเรียกตรวจ ในการเรียกตรวจก็มีการแจ้งการปฏิบัติหน้าที่ว่ามีการปฏิบัติครบถ้วนถูกต้อง ส่วนเจ้าตัวตอนนั้นมีอาการสั่น เหมือนมีสิ่งผิดกฎหมาย ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจ และมีการขอตรวจปัสสาวะ แต่เจ้าตัวขอรอญาติก่อน ไม่นานทางญาติก็มาและมีการไม่พอใจเหตุว่าทำไมทางตำรวจมีอะไรก็จะตรวจฉี่ๆ เขาทำความผิดอะไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งไปแล้วว่าเจอความสงสัยจึงต้องมีการเรียกตรวจ เพื่อรักษาความเรียบร้อยของการปฏิบัติหน้าที่ ทางญาติจึงมีการกดไลฟ์สด จากนั้นตัวคนที่ไลฟ์ก็ไม่ได้มุ่งประเด็นไปที่เรื่องการตรวจแต่มุ่งไปที่เรื่องรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจแทน ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้วรถของเราถูกต้องตามกฎทุกอย่าง ตัวรถของเราได้รับการสนับสนุนมาจากภาคเอกชน นำมาใช้เป็นรถของทางราชการ มีการตรวจสภาพรถทุกปี ตอนนั้นมีการตรวจปัสสาวะของเจ้าตัวแล้ว แต่ไม่พบสารเสพติด แต่แค่ผิดกฎการจราจร ทางเราได้แจ้งกับทางญาติไปแล้ว เพิ่มเติมเรื่องสภาพรถของเจ้าหน้าที่ ที่สีเหมือนกับรถทั่วไปเพราะว่าเป็นรถจากทางเอกชนสนับสนุนมาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ ก็สามารถเอามาปฏิบัติหน้าที่ได้ปกติ
ส่วนเจ้าตัวทางเจ้าหน้าที่เพียงแค่แจ้งให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ถูกต้องเพราะมันจะเกิดอันตรายต่อบุคคลอื่นได้ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาอื่น ก็มีการว่ากล่าวตักเตือนไปเพียงแค่นั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเรามีการกำชับกับทางเจ้าหน้าที่ตลอดว่าเมื่อเราทำถูกหลักกฎหมายและตรงตามหลักการปฏิบัติหน้าที่แล้วเราไม่ต้องไม่ต้องไปกลัวอะไรและยึดความสุจริตเป็นที่ตั้งและเมื่อเรายึดความสุจริตเป็นที่ตั้งแล้วก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้
ส่วน จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ มหาวงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู กล่าวว่าวันนั้นตนออกตรวจพื้นที่และไปเจอ กับน้องที่กำลังขับรถย้อนศรมาเป็นวับรุ่น 2 คน ตนจึงเรียกตรวจ พอตรวจสอบก็พบว่ารถไม่ได้ติดป้ายทะเบียน จึงต้องการตรวจสอบรถ เพราะช่วงนี้มีรถหายบ่อย ตัวน้องจึงบอกว่าขอรอญาติก่อน พอญาติๆของน้องมาเขาก็ไลฟ์สดมาเลย ตนเลยแจ้งไปว่ารถน้องไม่ได้ติดป้ายทะเบียน เอกสารก็ไม่มีและมีการขับรถย้อนศรด้วย ตนจึงแจ้งว่าจะนำรถไปตรวจสอบ ว่ามีการแจ้งหายมาหรือไม่ เขาก็โวยวาย และตัวน้องเองก็มีอาการสั่น ตนจึงถามว่าน้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดไหม เขาบอกว่าไม่ได้ยุ่ง ตรวจได้ ตนจึงแจ้งว่าถ้าตรวจได้จะขอนำตัวไปตรวจ และพอนำรถไปตรวจสอบก็ปรากฏว่าเป็นรถเขาจริง ชื่อตรงกัน ตนจึงมีการชี้แจงอีกครั้งว่าทำไมถึงต้องตรวจสอบ เขาก็เข้าใจใน ณ ตอนนั้น แต่พอวันต่อมาตนก็มาเห็นคลิปทางโซเชียล เหตุการณ์มันก็เป็นไปตามคลิปที่ปรากฏ เจตนาของเราคือต้องการตรวจสอบรถ เพราะช่วงนี้รถมีการแจ้งหายเข้ามาบ่อย เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะการทำงานที่พบปะผู้คน เราเป็นเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจว่าคนที่มีเจตนาไม่ดีก็มีอยู่ เราทำงานมานานมีประสบการณ์ตรงนี้ เราก็ต้องมีความอดทน
********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
