วันที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 10.49 น.
จากกรณี สาวชาวเมียนมาถูกสามีที่เป็นชนชาติเดียวกันได้ใช้อาวุธซึ่งเป็นค้อนทุบที่บริเวณหัวและใบหน้าจนเสียชีวิตภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งในย่าน ถนน เอกชัย แล้วหมกศพเอาไว้ในห้องหลายวันในสภาพเปลือยกายท่อนบน ศพบวมอืดส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวนไปทั่วทั้งตึก จนกระทั่งลูกสาวมาพบร่างผู้เสียชีวิต จึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 17.10 น. ของวันที่ 7 กันยายน 2567 ก็คือเหตุการณ์นี้ได้รับการเปิดเผยขึ้นในเมื่อวานช่วงตอนเย็นที่ผ่านมานั่นเอง
และเมื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบแล้วภายในที่เกิดเหตุนั้นอยู่ภายในห้อง เลขที่ 91/177 ของอพาร์ทเมนท์ไม่มีชื่อ ภายในซอยเอกชัย 83/1 ถนน เอกชัย แขวง คลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งอาคารดังกล่าวมีความสูง 7 ชั้น และห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องพักอาศัยของผู้ตายและสามี อยู่บนชั้นที่ 3 ของตัวอาคารดังกล่าว
และพอเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้พบกับร่างของ นาง ซูตาง ดางงุย อายุ 39 ปี ชาวเมียนมา อาชีพคนขายกุ้งสดภายในตลาดมหาชัย นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกทุบที่ศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน สภาพศพเปลือยกายท่อนบน มีผ้าถุงคลุมบริเวณช่วงล่างไว้ สภาพศพเริ่มบวมอืด ห่างจากศีรษะไปเล็กน้อยพบค้อนเปื้อนคราบเลือด ความยาวของด้ามประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ตายอาศัยอยู่กับนายทุน ทุน เมี๊ยะ อายุ 43 ปี สามีชาวเมียนมา หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ คราบรอยนิ้วมือ คราบรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดที่เปรอะอยู่ตามพื้นห้องไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาเกิดเหตุเพื่อยืนยันตัวผู้กระทำความผิด พร้อมกับประสานฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
และเมื่อตอนช่วงเช้าของวันนี้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ภายใน ซอย เอกชัย 83/1 โดยห้องที่พบศพถูกล็อคจากด้านนอก แต่ประตูยังเปิดแง้มเอาไว้อยู่ ซึ่งในระหว่างสังเกตุการณ์ ก็ยังคงได้กลิ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าห้องที่เกิดเหตุดังกล่าวน่าจะยังคงสภาพเดิมอยู่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพภายในห้องอย่างแน่นอน เพราะยังคงมีกลิ่นเหม็นเน่าของน้ำเลือดน้ำหนองที่เปรอะเปื้อนอยู่บนพื้นห้องพวยพุ่งออกมา
และต่อมาผู้สื่อข่าวได้มาเฝ้าสังเกตุการณ์บรรยากาศการติดต่อขอรับร่างของ นาง ซูตาง ดางงุย ที่หน่วยนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช โดยลูกสาว พร้อมด้วย กลุ่มเพื่อนสนิท เดินทางมาขอรับร่างผู้เป็นมารดานำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัด ศรีเมือง ตำบล ท่าทราย อำเภอ เมือง จังหวัด สมุทรสาคร โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรมศพ 3 คืน แล้วจะทำการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 11 กันยายน 2567 ในช่วงเวลา 17.00 น.
ด้านนายเว่น อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มชาวเมียนมาร์ของลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางญาติผู้ใหญ่ที่รู้จักกับผู้ตายได้ติดต่อมายังลูกสาวว่า ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ ซึ่งค่อนข้างผิดปกติ เพราะผู้ตายเองนั้นรับโทรศัพท์ตลอด จึงได้เดินทางมายังอพาร์ทเม้นท์ โดยได้ติดต่อกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ว่า ต้องการจะเข้าไปในห้องของผู้ตาย แต่ทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ไม่อนุญาต
หลังจากนั้นเมื่อวานนี้ ลูกสาวของผู้ตายจึงได้เดินทางกลับไปที่อพาร์ทเม้นท์อีกครั้งพร้อมทนายความอาสา ครั้งนี้สามารถเปิดเข้าห้องได้ ก็พบศพผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่กลางห้อง
ที่ผ่านมาลูกสาวและคนที่บ้านเคยเตือนผู้ตายแล้วว่า หลังจากพ่อของลูกสาวหรือสามีเก่าของผู้ตายได้เสียชีวิตไป ก็อย่าเพิ่งไปคบใครใหม่ จนกระทั่งผู้ตายได้มาคบกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งคบกันได้ 4 เดือน ซึ่งลูกสาวก็ไม่ทราบอุปนิสัยใจคอของผู้ก่อเหตุว่าเป็นคนยังไง แต่ไม่มีใครยอมรับ ส่วนตัวผู้ตาย ลูกสาวเจอครั้งสุดท้ายเกือบปีมาแล้ว แต่ยังคงติดต่อทางโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่คาดคิดว่า สามีใหม่จะสามารถกล้าลงมือก่อเหตุรุนแรงได้เพียงนี้ หากมีเรื่องอะไรก็น่าจะพูดคุยกันดี ๆ สิ่งหนึ่งที่ต้องการคืออยากรู้ว่า เหตุใดถึงต้องลงมือฆ่าได้ขนาดนี้