บอล “อิเดมิตสึคัพ” รอบรองชนะเลิศ เตะกันอย่างสมศักดิ์ศรี โดยเฉพาะคู่ อัสสัมชัญศรีราชา กับ เทพศิรินทร์ ยิงกันในเกมถึง 8 ประตู ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษกันทั้ง 2 คู่ ผลปรากฏว่า อัสสัมชัญธนบุรี และ อัสสัมชัญศรีราชา ยิงแม่นกว่า ได้คู่ชิงเป็นศึก ดาร์บี้แมทช์ อัสสัมชัญธนบุรี เจอกับ อัสสัมชัญศรีราชา ในวันที่ 12 กันยายน ที่สนามศุภชลาศัย
การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนรายการ ““อิเดมิตสึ คัพ 18 ปี.ก กรมพลศึกษา พรีเซ็นเต็ดบาย ไอมาเน่” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำ 2567 พร้อมทุนการศึกษา 250,000 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ
ไฮไลท์คู่แรก “เจ้าสัวน้อย” อัสสัมชัญธนบุรี (อันดับ 2 ของสาย B) พบกับ “อัศวินสีส้ม” ราชวินิตบางแก้ว (อันดับ 1 ของสาย A ) คู่นี้กันก่อนหน้านี้ในรอบรองชนะเลิศรายการ “สยามกีฬาคัพ” เสมอกัน 1-1 และยิงจุดโทษ โดยเป็น อัสสัมชัญธนบุรี ชนะ สกอร์รวม 6-3 เจอกันครั้งนี้ ถือว่าเป็นการล้างตากันอีกครั้ง
ผลปรากฏว่า ตลอด 90 นาที ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษอีกครั้ง ซึ่ง 7 คนต่างยิงเข้าเหมือนกัน แต่คนที่ 8 ของ ราชวินิตบางแก้ว “ปริวัฒน์ โฮมแพน” ยิงไปชนคาน ขณะที่คนที่ 8 ของ อัสสัมชัญธนบุรี ได้แก่ผู้รักษาประตู นภัทร สกุลจันทร์ นายทวารเยาวชนทีมชาติ รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทำให้ “เจ้าสัวน้อย” อัสสัมชัญธนบุรี เบียดเอาชนะ ราชวินิตบางแก้ว 8-7 เข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
อีกคู่ อัสสัมชัญศรีราชา (อันดับ 1 ของสาย B ) พบกับ “ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ (อันดับ 2 ของสาย A) โดยกองเชียร์ของ เทพศิรินทร์ เข้ามาเชียร์กันจำนวนหลายพันคน
นาทีที่ 5 อัสสัมชัญศรีราชา ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะสวนกลับ โดย ณัฐชนนท์ จันทร์ดี ยิงเข้าไปให้ อัสสัมชัญศรีราชา นำ 1-0
จากนั้นนาทีที่ 23 อัสสัมชัญศรีราชา ขึ้นนำเป็น 2-0 จากการยิงลูกฟรีคิก บอลกระฉอกมาเข้าทาง ดนยวรรน์ สหายา ยิงซ้ำเข้าไปชนิดที่ พิพรรธ ประคองพันธ์ ผู้รักษาประตู ทีมเทพศิรินทร์ สุดปัญญาจะเซฟไว้ได้
ถัดมาเพียงแค่ 5 นาที เทพศิรินทร์ ก็มาตีไข่แตกได้เร็ว จากจังหวะที่กองหลัง อัสสัมชัญศรีราชา เคลียร์ไม่ขาด บอลมาตกหน้า ปวริศ บุญมาเลิศ ยิงในระยะจ่อ ๆ ตามมาเป็น 1-2 ประตู
หลังจากนั้นเกมของ เทพศิรินทร์ กลับมาอีกครั้ง นาทีที่ 36 จากจังหวะเตะฟรีคิก โดยเป็น “ภาคิน มะห้ามหว้า” ยิงทะลุกำแพงส่งบอลไปตุงตาข่าย ทำให้เสมอกัน 2-2
ก่อนจบครึ่งแรก นาทีที่ 45 อัสสัมชัญศรีราชา มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 3-2 จากการยิงของ “เขมชาติ สุขโต” นักเตะดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย จบจนครึ่งแรก
ครึ่งเวลาหลัง ทั้งคู่เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 54 เทพศิรินทร์ก็มาตีเสมอได้อีกครั้ง จากฝีเท้าของ ปวริศ บุญมาเลิศ ทำให้เสมอกัน 3-3
ถัดมาอีก 8 นาที เป็น นาทีที่ 62 เทพศิรินทร์ มาได้จุดโทษ และเป็น ปิติภัทร ปะนามะทัง เป็นผู้สังหารเข้าไป ให้ เทพศิรินทร์ ขึ้นนำ 4-3
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 85 จากจังหวะเตะมุม ซึ่ง พิพรรธ ประคองพันธ์ นายทวารเทพศิรินทร์ รับกระฉอกมาเข้าทาง “ธีรภัทร ปรือทอง ยิงเข้าไปให้ตีเสมอเป็น 4-4 จากนั้นก็ไม่สามารถทำประตูได้อีก หมดเวลาเสมอกัน 4-4 ต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ
ผลปรากฏว่า อัสสัมชัญศรีราชา ยิงได้แม่นกว่าเข้าครบทั้ง 5 คน ขณะที่ เทพศิรินทร์ “ปฎิพัทธ์ จันทร์หอม” ยิงไปติดเซฟ ทำให้ อัสสัมชัญศรีราชา ชนะด้วประตูรวม 9-7 ประตู ส่งผลให้ อัสสัมชัญศรีราชา ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศด้วยการพบกับ “เจ้าสัวน้อย” อัสสัมชัญธนบุรี เป็นศึกดาร์บี้แมทช์ ในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน โดยคู่แรก เวลา 14.00 น. จะเป็นการชิงอันดับ 3 ราชวินิตบางแก้ว พบกับ เทพศิรินทร์ / คู่ที่สองเป็นคู่ชิงชนะเลิศ เวลา 16.00 น. อัสสัมชัญธนบุรี พบกับ อัสสัมชัญศรีราชา ที่สนามศุภชลาศัย ผู้สนใจเข้าชมได้ฟรี