พะเยา- “แอบลักไก่” ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านค้านไม่เอาเสาโทรศัพท์ ทั้งที่หมดสัญญาเช่ายังให้ผู้รับเหมา ขนอุปกรณ์เตรียมอัฟเกรดเป็น 5 G มาติดตั้ง
วันนี้ (6 ม.ค.64) เวลา 17.00 น. ณ บริเวณหัวสะพานบ้านดอนไชย ซอย 8 ม.5 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสารับ ส่งสัญญาณโทรศัพท์ ชาวบ้านได้รวมตัวกันเมื่อเห็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมาจาก จ.เชียงใหม่ กำลังขนอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร ลงจากรถบรรทุก เมื่อสอบถามจึงได้รับคำตอบว่า ทางค่ายมือถือแห่งหนึ่ง ( ทรู ) จากสำนักงานใหญ่สั่งการให้มาทำการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารเพื่ออัฟเกรด จากสัญญาณ 4 จี เป็น 5 จี โดยตนเองเพียงแต่รับงานต่อมาอีกช่วงเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านที่ได้ยินต่างไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
นางขจร สมฤทธิ์ เจ้าของคู่สัญญา บ้านเลขที่ 208/1 บ้านดอนไชย ม.5 ต.หย่วน เผยว่าตนเองได้ทำสัญญาเช่าที่เพื่อติดตั้งเสาส่งสัญญาณกับทางบริษัท เมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2560 จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งหมดสัญญามากว่า 3 เดือนแล้วและตนก็ไม่ได้ต่อทำสัญญากับบริษัทฯ ทั้งยังไม่มีการรื้อถอนเสาและอุปกรณ์ต่างๆ แต่ทางบริษัทฯ กลับนำอุปกรณ์สื่อสารมาเพิ่มเพื่อทำการอัฟเกรดเป็น 5 จี อีกด้วย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านดอนไชย ม.5 บ้านหย่วน ม.3 บ้านธาตุ ม.2 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการติดตั้งสาสัญญาณดังกล่าว เนื่องจากเมื่อหน้าฝน ในเดือน กันยายน ปี 2563 ได้เกิดฟ้าผ่าลงตรงบริเวณเสาดังกล่าว จนทำให้กระแสไฟฟ้าสปาร์ค เครื่องใช้ไฟฟ้าชาวบ้านกว่า 10 ครัวเรือนได้รับผลกระทบเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว จนทำให้ทางบริษัทเข้ามาจ่ายเงินค่าเสียหายให้ชาวบ้านเกือบแสนบาท และทางบริษัทได้รับปากกับชาวบ้านว่าจะย้ายเสาดังกล่าวออกไปติดตั้งที่อื่นในเดือนธันวาคม 2563 แต่มาจนถึงวันนี้ก็ไม่มีการดำเนินการย้ายออกแต่อย่างใดแล้วยังนำเอาอุปกรณ์มาเพิ่มเติมอีก
ด้าน พญ.เขมจิรา โชติปภาณิ์ จักษุแพทย์ รพ.เชียงคำ ชาวบ้านดอนไชย ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนได้รับผลกระทบจากเสาโทรศัพท์ดังกล่าว กล่าวว่า ตนเองรู้สึกไม่ค่อยจะพอใจกับพฤติกรรมของบริษัทดังกล่าว ซึ่งตนเองและชาวบ้านต่างก็คัดค้านการตั้งเสานี้มาโดยตลอดหลายปี ซึ่งทางตัวแทนบริษัทเองได้รับปากสัญญาว่าจะทำการย้ายออกให้ภายในสิ้นปี 2563 จนมาถึงวันนี้กลับไม่ทำตามที่ดีรับปากไว้ ทั้งยังนำอุปกรณ์มาต่อเพิ่มอีก ครอบครัวตนเองก็เคยได้ผลกระทบจากกรณีฟ้าผ่าเสาครั้งล่าสุด เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายและลูกตนเองเกือบจะเสียชีวิต และชาวบ้านหลายๆครอบครัวโดยรอบเสาก็ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากกรกรณีฟ้าผ่าเสาต้นนี้มาตลอด และต่อสู้เพื่อให้ย้ายเสาออกไปจากพื้นที่ แต่ทางบริษัทฯก็อ้างสารพัดว่าจะรื้อแต่ก็ไม่รื้อ เมื่อเห็นว่าจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มชาวบ้านจึงรวมตัวกันอีกครั้งและไม่ยอมให้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม แต่ให้รื้อถอนออกไป
จากนั้นชาวบ้านก็พากันไป สภ.เชียงคำ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในขณะที่กำลังปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีสายโทรศัพท์จากตัวแทนบริษัทติดต่อมาเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ชาวบ้านจึงสอบถามถึงกำหนดการย้ายเสาฯที่แน่นอน แต่ก็ได้รับคำตอบบ่ายเบี่ยงไปมา จึงทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่เนื่องจากที่ดินดังกล่าวได้แบ่งให้กับน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศซึ่งเป็นผู้มีอำนาจโดยตรงที่จะแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีขับไล่ได้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้น้องสาวนางขจร ส่งเอกสารมอบอำนาจให้เพื่อดำเนินการต่อไป
(ภาพ/ข่าว สราวุธ ตั้งประเสริฐ พะเยา )
