ข่าวพาดหัว

บุรีรัมย์ – แม่ปริ่มขาดใจลูกจมน้ำตายต่อหน้าขณะกระโดดลงช่วยแม่ตกน้ำ

บุรีรัมย์ แม่ปริ่มขาดใจลูกจมน้ำตายต่อหน้าขณะกระโดดลงช่วยแม่ตกน้ำ

อำเภอนางรอง//แม่วัย 67 ปีนั่งร่ำให้แทบขาดใจ หลังรอดจากการจมน้ำมาได้จากลูกชายช่วยแล้วจมหายไป เผยสองคนแม่ลูกขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงรถเข็นด้านหลังไปเกี่ยวหญ้าให้วัว ขากลับต้องข้ามสะพานไม้ยาวกว่า 60 เมตร ล้อรถเข็นพ่วงหลังเกิดตกร่องไม้สะพานแม่ลงงัดล้อเกิดพลาดแม่ร่วงตกน้ำลึก ลูกกระโดดลงช่วยแต่ต้านแรงน้ำ นานนับชั่วโมงลูกไม่ไหวผลักแม่ออกไป ชาวบ้านเห็นช่วยได้ 1 ส่วนลูกจมน้ำดับ

วันที่ 23 ก.ย.67 ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ แสงคำ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำลำน้ำมาศ บริเวณบ้านท่าปูน ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ นำนักประดาน้ำไปให้ความช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นสะพานไม้ชาวบ้านตั้งชื่อสะพานตานวย ขนาดความกว้างประมาณ 140 ซม.ยางประมาณ 60 เมตร เป็นสะพานที่ชาวบ้านสร้างขึ้นเองข้ามลำน้ำมาศ เพื่อสะดวกในการสัญจรไปข้ามระหว่างหมู่บ้าน

มีชาวบ้านมามุงดูและพยายามช่วยเหลือนาย ธีธัช ทักษิณาบดี อายุ 41 ปี อยู่เลขที่ 35 บ้านท่าปูน หมู่ 8 ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่จมน้ำหายไปก่อนหน้านี้ หน่วยกู้ภัยฯจึงเร่งประกอบอุปกรณ์แล้วลงค้นหาใต้น้ำ เบื้องต้นพบว่าน้ำมีความลึกประมาณ 7 เมตร กู้ภัยฯใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถนำร่างนายธีธัช สภาพเสียชีวิตแล้ว ขึ้นมาได้ห่างจากสะพานประมาณ 20 เมตร

ส่วนนางทองสุข ทักษิณาบดี อายุ 67 ปี แม่ผู้เสียชีวิตได้แต่ร่ำไห้ด้วยความเสียใจอยู่ข้างลำน้ำมาศ โดยนางทองสุข เล่าว่า ตนกับลูกชายออกมาเกี่ยวหญ้าให้วัวเป็นประจำทุกวัน

โดยจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เอารถเข็นพ่วงท้ายลูกชายเป็นคนขับรถตนนั่งซ้อนท้ายหนีบรถเข็นเอาไว้ ขากลับกำลังจะข้ามสะพานไปได้ประมาณ 5 เมตร ล้อรถเข็นเกิดตกร่องสะพานตนซึ่งเป็นคนซ้อนจึงลงไปหวังจะงัดล้อรถเข็นออก

แต่เกิดพลาดร่วงตกลงน้ำ ลูกชายเห็นจึงกระโดนลงไปช่วย ตนเองมีสติใช้มือจับแค่เสื้อของลูกไว้ ส่วนลูกชายพยายามดันร่างของแม่เข้าไปใกล้สะพานให้ได้มากที่สุด แต่กระแสน้ำแรง ยอมรับว่าเป็นเวลานานเกินกว่า 30 นาที ที่ลูกชายสู้กับน้ำและพยายามช่วยแม่

จากนั้นได้มีชาวบ้านมาเห็นพยายามหาไม้มายื่นให้แต่ไม่ถึง แล้ววิ่งไปตามหาไม้อีก ขณะลูกชายเริ่มอ่อนแรง และคาดว่าลูกชายน่าจะใช้แรงครั้งสุดท้ายดันหลังตนออกไปใกล้กับสะพานอีกครั้ง ตนจึงสะบัดมือออกจากลูกชาย หวังจะให้ลูกชายรอด

ในช่วงนั้นว่าตนเองก็ไม่ไหวไม่รู้ว่าลูกชายไปไหน ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไม้ จึงเอามือคว้าไว้แล้วชาวบ้านลากมาถึงสะพาน ส่วนลูกชายไม่รู้ว่าอยู่ไหน ยอมรับว่าเสียใจตนแก่แล้วควรที่จะตายคือตนเองไม่ใช่ลูกชาย