ข่าวพาดหัวอัคคีภัยแปลกแต่จริง

อยุธยา – ฝนตก หนักถล่มกรุงเก่าฟ้าผ่า อาคารไม้ เก่าแก่อายุ 80 ปีวอดทั้งหลัง กองโรงงานวัตถุระเบิด

ฝนตก หนักถล่มกรุงเก่าฟ้าผ่า อาคารไม้ เก่าแก่อายุ 80 ปีวอดทั้งหลัง กองโรงงานวัตถุระเบิด
เมื่อเวลา 14.00 นวันที่ 2 ตุลาคม ร.ต.อ ปัญญา อามาตย์เสนา รอง สว(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานบริเวณกองโรงงานวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหกรรมสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ม.2 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายวีระยุทธ ยะสา ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา จ่าสิบเอก จตุรงณ์ เสตางกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ พร้อมประสาน รถดับเพลิงอบต.บ้านเกาะ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาและใกล้เคียงกว่า 10คัน เข้าควบคุมเพลิง
ในที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารไม้เก่าชั้นเดียวหลังใหญ่ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ เหลือแต่กลุ่มควัน พบว่า อาคารไม้เสียหายทั้งหลัง

สอบถาม จ่าสิบเอก จตุรงณ์ เสตางกูล นายกอบต. บ้านเกาะ เผยว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีไฟไหม้อาคารไม้หลังเก่าภายใน กรมสรรพาวุธทหารบก จึงได้นำรถดับเพลิงของทางอบต.และประสานรถดับเพลิง อบต.ใกล้เคียงเข้าควบคุมเพลิง พอมาถึง เห็นไฟไหม้ลุกลามอาคารอย่างรวดเร็วโดยมีรถดับเพลิง 1 คันของ.กรมสรรพาวุธทหารบก กำลังฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม ทางชุดทีมดับเพลิง ของทางอบต. จึงได้ช่วยฉีดน้ำสกัด จนสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ ส่วนตนเอง ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่เล่าว่าขณะนั้นเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักแล้วเกิดฟ้าผ่าลงมาใส่หลังคาอาคารไม้หลังเก่า ซึ่งใต้หลังคามีฝ้า 2 ชั้นหลังจากฟ้าผ่า ได้เกิดไฟลุกไหม้บนฝ้าแล้วไฟค่อยลุกลาม เจ้าหน้าที่มาเห็นจึงรีบช่วยกัน นำน้ำมาดับไฟและประสานรถดับเพลิง ให้เข้ามาควบคุม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทางด้านนาย วีระยุทธ ยะสา ปลัดอำเภอ.พระนครศรีอยุธยาเผยว่าตนเองได้รับรายงานจากใต้ผู้บังคับบัญชา ว่าเกิดเหตุไฟไหม้ จึงเดินทางมาตรวจสอบ พบไฟไหม้อาคารไม้ วอดวายเสียหายทั้งหลัง เบื้องต้น อาคารไม้ดังกล่าวทำเป็นสำนักงาน มีเจ้าหน้าที่สื่อสารของทหารปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่กี่คนและอาคารหลังนี้ เป็นอาคารไม้เก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ 2487 อายุกว่า 80 ปี
ซึ่งทางพนักงานสอบสวน ได้ถ่ายรูปบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมทั้งจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบถึงสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง มูลค่าความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้