ข่าวพาดหัวความเชื่ออาชญากรรม

เปิดใจผู้ที่รอดตายในรถ ด้านผู้การปากน้ำ แถลงคืบหน้าทางคดี มุ่งเป้าปมเหตุขัดแย้งเรื่องยาเสพติด

เปิดใจผู้ที่รอดตายในรถ ด้านผู้การปากน้ำ แถลงคืบหน้าทางคดี มุ่งเป้าปมเหตุขัดแย้งเรื่องยาเสพติด
*** หมายเหตุ : เบลอหน้า เพื่อนคนตาย (ชายเสื้อแดง และ ชายเสื้อน้ำตาล) ***
จากกรณีที่มีเหตุวัยรุ่นสองกลุ่มเปิดฉากไล่ยิงกันสนั่นกลางถนนสายศรีวารีน้อย ในพื้นที่ตำบลศีรษะจระเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงสามทุ่มครึ่งของวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย สาหัส 4 ราย


เมื่อช่วงสาย วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ทีมข่าวเราลงพื้นที่ที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยเราไปได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่รถเก๋งแคมรี่ของกลุ่มผู้ตายขับหนีการไล่ล่าการยิงใส่ของกลุ่มมือปืน จากภาพวงจรปิดริมถนนในซอยคลองบางนา ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุบนถนนสายหลักประมาณ 3.5 กิโลเมตร พบว่ารถเก๋งแคมรี่สีขาวขับผ่านกล้องไปด้วยความเร็ว โดยมีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่มีพยานออกมาระบุว่าเปิดฉากไล่ยิงใส่ท้ายรถเก๋งแคมรี่ และนอกจากนั้นยังมีรถเก๋งเอนกประสงค์โตโยต้าสีขาวรวมถึงรถเก๋งเอนกประสงค์ อีซูซุ ที่ปรากฏตามคลิปมือถือที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ในขณะที่ลงมือก่อเหตุตามประกบยิงซ้ำอีกหลายนัด ขับไล่ล่ากันผ่านกล้องทั้งสองมุมภายในซอยคลองบางนา ขณะที่กล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นว่ามีรถเก๋งเอนกประสงค์โตโยต้าขับนำหน้าชะลอฝ่ายของรถเก๋งแคมรี่สีขาว ไม่กี่วินาทีต่อมาภาพมุมเดิมจับภาพได้ในขณะที่รถเก๋งอีซูซุขับตามประกบข้างซึ่งจังหวะนั้นคาดว่ารถเก๋งแคมรี่นั้นถูกยิงจนคนในรถนั้นบาดเจ็บรวมถึงยางรถล้อหลังข้างขวาแตกจนล้อขุดกับกับพื้นถนนกระทั่งไปหยุดรถตรงที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากจุดนี้ไปเพียง1 กม
ที่บริเวณหน้า สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 1 ตำรวจภูธรภาค 1 เข้าเก็บหลักฐานและตรวจร่องรอยวิถีกระสุนจากรถคันเกิดเหตุทั้ง 2 คัน เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ และสอบพยานอีก 3 ปาก ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายที่เข้าไปรับผู้ตายออกมาจากบ้านในคืนที่เกิดเหตุ
นาย สุทร เวียนระวัง 66 ปี พ่อตาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกเขยปกติเป็นคนดี ไม่มีศัตรูกับใคร เป็นคนรักเพื่อน ช่วงหลังลูกเขยตนตกงาน ทราบมาว่าคืนวันเกิดเหตุเพื่อนของลูกเขยเข้ามารับที่บ้าน ลูกเขยก็บอกกับเมียเค้าว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน ไปทำอะไร ทราบอีกทีก็ถูกยิงแล้ว ทางครอบครัวก็มืดแปดด้านไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนก่อเหตุ วันนี้เดินทางมาโรงพักเพื่อจะมารับศพลูกเขยไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัด ย่านอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยง ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รักษาการ ผบช.ภ.1 / พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการ / พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง / และ นายศรายุทธ์ ไชยกอง นายอำเภอบางเสาธง ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้าทางคดี โดยระบุว่า เหตุเกิดเมื่อช่วง 21.30 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มความขัดแย้ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ถูกจ้างให้มาชี้เป้าและมาอุ้ม ซึ่งทีมชี้เป้าขับรถยนต์โตโยต้าแคมรี่สีขาวมาด้วยกันจำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน และคนขับชื่อ นายประพจน์ จิตตกูล อายุ 30 ปี ชาว อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถูกยิงเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ และทีมอุ้มโดยสารมากับรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น สเปซวากอน สีเทา มี 4 คน ถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ รวมถึงคนขับขี่รถจักรยานยนต์นำทางอีก 2 คน ดังนั้นทีมชี้เป้าและอุ้มมีรวมทั้งหมดคือ 11 คน ส่วนทีมที่จะเป็นผู้ถูกอุ้มแต่พลิกกลับเป็นทีมล่าสังหาร มีด้วยกันรวม 5 คน ใช้รถยนต์ก่อเหตุจำนวน 3 คัน สีขาว 2 คัน สีแดง 1 คัน ใช้อาวุธปืนยาว 1 กระบอก ปืนสั้น 3 กระบอก
เบื้องต้น จากพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมมาได้ทั้งภาพกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่น ๆ วันนี้จะออกหมายจับ 2 คน คนแรกเป็นหัวหน้าทีมมือปืนชื่อ นายโชค อายุประมาณ 27-30 ปี อีกราย คือคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์พาไปยิง ส่วนปมปัญหาเกิดจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด ซึ่งเดิมนายโชค ต้องเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกอุ้ม แต่หนึ่งในทีมชี้เป้า รู้จักนายโชคจึงแจ้งเรื่องให้รู้ กระทั่งมีการซ้อนแผน แล้วล่อทีมชี้เป้าและอุ้มเข้ามาในซอย อบต.ศีรษะจรเข้น้อย ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวและลงมือเปิดฉากยิงเข้าใส่โดยที่ยังไม่มีการพูดคุย จนเกิดการสูญเสียดังกล่าว โดยทั้งสองกลุ่มเป็นคนที่อยู่นอกพื้นที่ จ.สมุทรปราการ แต่นัดหมายกันมาก่อเหตุในพื้นที่อาจเพราะจุดนั้นเป็นพื้นที่ลับตา และหลังจากรวบตัว 2 คนนี้ได้ ผู้ก่อเหตุรายอื่น ๆ ก็ต้องถูกดำเนินการต่อไปอย่างไม่ละเว้น
ขณะที่ นาย ฟิน *** (เบลอหน้า) *** หนึ่งในผู้ที่นั่งโดยสารมาในรถแคมรี่ เล่าวินาทีรอดตายมาได้ให้ฟังว่า ตนเอง ตอนนั้นนั่งอยู่ที่เบาะหน้าฝั่งซ้ายข้างคนขับ หลังจากที่รถถูกยิงยางจนไปต่อไม่ได้และถูกอีกฝ่ายตามประกบพอมือปืนลงมาจากรถซึ่งมีทั้งปืนยาวและปืนสั้นได้เปิดฉากกระหน่ำยิงอีกหลายนัด ตอนนั้นตนเองตัดสินใจแกล้งตาย ทำให้มือปืนใช้ด้ามปืนยาวทุบกระจกฝั่งซ้ายจนแตกแล้วใช้ด้ามปืนตบที่หน้าตนเองเพื่อดูว่าตายหรือยัง ซึ่งตอนนั้นตนเองได้แต่นิ่งทำเป็นว่าตาย จนพวกนั้นพูดออกมาว่าตายหมดทั้งคันแล้วไปเถอะก่อนจะพากันแยกย้ายหลบหนี
ด้าน นาย คิว *** (เบลอหน้าจนถึงลำคอ ) *** หนึ่งในผู้ที่นั่งมาในรถแคมรี่เช่นกัน บอกกับนักข่าวว่า ตนเองยอมรับว่าทราบดีว่ามีการว่าจ้างให้มาทำงานนี้ โดยมีการว่าจ้างทีมของตนเอง ในราคา 3 หมื่นบาท เพื่อให้ตามหาและชี้เป้านายโชคหรือฉายากำนันโชค ซึ่งตนเองรับงานเมื่อช่วงห้าโมงเย็นที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รูปนายโชคมา ตนเองไม่รู้จักรกับนายโชค และไม่เคยเห็นหน้าทราบเพียงว่าอยู่ไม่ไกลจากซอยวัดศรี จึงลองติดต่อรุ่นน้องที่รู้จักรกันในพื้นที่ แล้วส่งรูปนายโชคให้รุ่นน้อง จนกระทั่งมีการนัดหมายให้มาเจอกันที่ตลาดศรีวารี พอมาถึงก็ถูกรุ่นน้องที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนอีกคันบอกว่าจะนำทางไปหาเป้าหมาย ด้วยความไว้ใจและไม่คิดว่าจะถูกรุ่นน้องคนนี้หักหลังจึงพากันตามรุ่นน้องคนนี้ไปในซอยเปลี่ยวจนกระเข้าไปเจอกลุ่มของนายโชคดักรออยู่ก่อนแล้ว พอเจอรถอีกฝ่ายและยังไม่ทันจอดรถก็ถูกเปิดฉากยิงใส่จนต้องพากันหนีตายอกมา แล้วถูกตามไล่ยิงมาตลอดทางด้วยปืนหลายกระบอก ส่วนตนเองที่รอดตายมาได้หลายครั้ง ตนมีความเชื่อเพราะแขวนพระท้าวเวสสุวรรณของวัดจุฬามณี
**********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ