2 จอมพลังดีกรีเหรียญโอลิมปิก “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช เหรียญทอง ริโอ 2016 และ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช กุลน้อย เหรียญทองแดง ลอนดอน 2012 ยื่นหนังสือกับ สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีกีฬา เพื่อให้รัฐบาล พิจารณาช่วยบรรจุเข้ารับราชการ หลังรับใช้ชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง
พลเอกวิสุทธิ์ เดชสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย นำ 2 นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญโอลิมปิกเกมส์ “ฝ้าย” นางสาวสุกัญญา ศรีสุราช เหรียญทอง โอลิมปิก ริโอ 2016 รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง และ “ปุ๊กลุก” นางศิริภุช กุลน้อย เหรียญทองแดง โอลิมปิก ลอนดอน 2012 รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง เข้ายื่นหนังสือกับ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้รัฐบาล พิจารณาช่วยบรรจุเข้ารับราชการ หลังรับใช้ชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567
นางสาวสุกัญญา กล่าวว่า ช่วงที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ยังศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี จึงยังไม่สามารถบรรจุเข้ารับราชการได้ จนปัจจุบันตนได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว เป็นเวลา 6 ปี แต่ยังไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ต้องทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และปัจจุบันได้มาประกอบอาชีพขายหมูปิ้งกับครอบครัว
“ตลอดช่วงเวลาในการเป็นนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ได้เสียสละแรงกาย แรงใจ ขยัน อดทน มุมานะ ทุ่มเท มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ อยู่ในกฎ ระเบียบ วินัย ของสมาคมฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียง เกียรติภูมิให้ประเทศ สร้างความสุข รอยยิ้มให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ดิฉันจึงขอความอนุเคราะห์ เมตตา และความกรุณาจากท่าน ช่วยพิจารณาให้ดิฉันได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทหารในหน่วยหรือเหล่าทัพ หรือบรรจุในหน่วยงานใด สุดแล้วแต่จะกรุณาพิจารณาเห็นสมควร” นางสาวสุกัญญา กล่าว
นางศิริภุช กล่าวว่า ในช่วงที่ทำหน้าที่เป็นนักกีฬาทีมชาติ ได้เสียสละแรงกาย แรงใจ ขยัน อดทน มุมานะ ทุ่มเท มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ อยู่ในกฎ ระเบียบ วินัย ของสมาคมฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียง เกียรติภูมิให้ประเทศ สร้างความสุข รอยยิ้มให้พี่น้องประชาชนชาวไทย เช่นกัน
โดยตนได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธนบุรี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2560 แต่ยังไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคงต่อชีวิตและครอบครัว ซึ่งสมาคมฯ ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์จากผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต่าง ๆ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความอนุเคราะห์บรรจุเข้ารับราชการไว้แล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา หรือให้การสนับสนุนแต่อย่างใด
“ดิฉัน จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ ขอความเมตตา และความกรุณาจากท่าน ช่วยพิจารณาประสานงานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ดิฉันได้รับการบรรจุเข้าทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามความฝัน หรือสุดแล้วแต่ละพิจารณาเห็นสมควร” นางศิริภุช กล่าว
