ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474
สสจ.นราฯแจงทุกฝ่ายให้การช่วยเหลือหญิงคลอดบุตรเข็มหักในช่องคลอด ส่วนหญิงต้องการให้หมอรักษาให้หายขาดไม่ได้เรียกร้องตัง
จากกรณีที่นายอารือมัน เวาะงอย ผู้ใหญ่บ้าน ได้โทรศัพท์มายังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอให้ช่วยเหลือลูกบ้านเป็นหญิงสาวอายุ 36 ปี ชาว อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 18 ปีก่อน ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งขณะที่หมอเย็บแผลคลอด พยาบาลได้ทำเข็มหล่นไปในช่องคลอด หมอพยายามใช้นิ้วควานหาแต่ไม่สามารถนำเข็มออกมาได้ ต่อมามีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยอยู่เป็นประจำเป็นระยะๆจนแทบทนไม่ได้ กระทั่งปี 2566 ได้ไปตรวจเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลจังหวัด ในภาพที่เอกซเรย์ปรากฏว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด จากนั้นโรงพยาบาลได้ส่งตัวต่อไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล ใน จ.สงขลา แต่ปรากฏว่าเข็มที่อยู่ในช่องคลอดมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอด ทำให้หมอไม่สามารถผ่าตัดได้ต้องเลื่อนการผ่าตัดมาถึง 2 ถึง 3 ครั้ง ปัจจุบันหญิงสาวยังต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเดือนละประมาณ 3 ถึง 4 ครั้ง ถึงแม้จะใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางครอบครัวตนก็ฐานะยากจน จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วยนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น วันที่ 5 พ.ย.67 นายมาหามะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง น.ส. สารินี วงศ์ทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.นราธิวาส และพยาบาลโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จำนวนกว่า 20 คน ได้ร่วมเดินทางเป็นคณะไปพบ น.ส.สารีปะ แวบากา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262/1 ม.8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ผู้ป่วย ที่ได้นัดหมายกันไปพบที่บ้านของนายอารือมัน เวาะงอย ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ไปยังยังนางปวีณา หงสกุล
ซึ่งการเดินทางมาพบ น.ส.สารีปะ ให้ครั้งนี้ทุกฝ่ายได้สอบถามถึงความเป็นมาเป็นไปในการร้องทุกข์ในครั้งนี้ โย น.ส.สารีปะ มีความประสงค์ที่จะรักษาอาการเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมานให้หายขาด โดยที่ไม่ได้มีการร้องทุกข์เพื่อประสงค์จะเรียกเงินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทุกฝ่ายได้ทำการช่วยเหลือมาตลอด รวมทั้งการได้รับเงินเยียวยาหลักแสนมาแล้ว
โดย น.ส.สารีปะ ได้เล่าเรื่อเดิมที่เมื่อ 18 ปีที่ผ่านมา ตนได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อคลอดเสร็จพยาบาลได้ทำการเย็บบาดแผล ด้วยความที่ยาชาที่พยาบาลฉีดให้ยังไม่ได้ออกฤทธิ์ พยาบาลก็ได้เย็บแผลของตน ตนเกิดอาการเจ็บจึงได้ขยับขาส่งผลทำให้เข็มเกิดหักคาเข้าไปด้านในช่องคลอด พยาบาลเขาก็ควานหาดูแล้วไม่พบก็ได้ทำการเย็บแผลจนเสร็จ หลังจากตนออกจากโรงพยาบาลแผลตนเริ่มเน่าและมีกลิ่นเหม็น ตนก็เข้ารักษาโรงพยาบาลตลอด 1 เดือนทุกวันจนหาย ต่อมาตนเกิดอาการเจ็บท้องเวลาเจ็บท้องจะโตขึ้นมา เมื่อไปหาหมอๆบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ไปหาหมออีกเลยคิดว่าเป็นโรคกระเพาะธรรมดาเหมือนกับที่หมอบอก
นอกจากนี้ น.ส.สารีปะ ยังได้เล่าเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ล่าสุดเมื่อเดือน เมษายน 67 ตนได้ไปหมอหาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เนื่องจากตนเจ็บถึงกับเป็นลม ทางโรงพยาบาลได้นำตนเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบเข็มยังอยู่ในช่องคลอดจึงได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ และโรงพยาบาลนราธิวาสฯได้ส่งตัวรักษาต่อที่ มอ.หาดใหญ่ และแพทย์พบว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอดแต่ไม่สามารถที่จะเอาออกมาได้ และหมอได้นัดตนอีกครั้งในเดือนธันวาคม 67 ที่จะถึงนี้ ส่วนการช่วยเหลือในเดือนมีนาคม 67 เจ้าหน้าที่ได้มอบเงินเยียวยาให้ จำนวน 1 แสนบาท และทางโรงพยาบาลเจาะไอร้องได้ให้เงินก่อนที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท และทุกครั้งโรงพยาบาลเจาะไอร้องจะให้เงินตนเป็นค่าเดินทางครั้ง 500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม น.ส.สารีปะ ยังได้เล่าถึงการคลอดบุตรอีก 3 คน หลังจากที่เข็มได้หักลงไปในช่องคลอด ว่าการคลอดลูกทั้ง 3 คน ก็เป็นไปตามปกติ
ด้าน นพ.ถนัด อาวารุลหัก นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส กล่าวว่า เมื่อวานได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล ได้ทราบเรื่องของหญิงสาว อายุ 36 ปี เป็นชาวเจาะไอร้อง เมื่อ 18 ปีที่แล้วได้ไปทำคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส เราบอกว่ามีสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่ในช่องคลอด หลังจากนั้นได้พยายามเอาออกแต่หาไม่เจอ จนมา 2 ปีที่แล้วทางผู้ป่วยมีอาการปวดท้องเป็นพักๆ ก็เลยได้มาหาหมออีกครั้งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลได้ตรวจอัลตร้าซาวด์ปรากฏว่า ได้มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในมดลูก ก็เลยได้ประสานไปยังโรงพยาบาล จ.นราธิวาส ปรากฏว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่จริง ได้พยายามที่จะเอาออกปรากฏว่าเอาออกไม่ได้ เนื่องจากสิ่งแปลกปลอมมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ นพ.ถนัด อาวารุลหัก นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามทาง สสจ.นราธิวาส ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะได้ถามรายละเอียดถึงความเป็นไปความเป็นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ เราจะได้ไปประสานหลายๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นจะดูแลผู้ป่วยรายนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะพยายามไปพูดคุยแล้วก็จะดำเนินการดูแลผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่คุณหมอเจ้าของไข้ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อซึ่งทางเราจะประสานทั้งผู้ป่วยและแพทย์ผู้รักษาต่อไป
/ 5 พฤศจิกายน 2567