ข่าวพาดหัวจับกุมยาเสพติด

กำแพงเพชร – ตำรวจกำแพงเพชรโชว์กึ๋นส์ จับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ยาบ้า 6 ล้านเม็ดมูลค่า 360 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 และยาบ้า 48,600เม็ด มูลค่า 3ล้านบาท

กำแพงเพชร – ตำรวจกำแพงเพชรโชว์กึ๋นส์ จับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ยาบ้า 6 ล้านเม็ดมูลค่า 360 ล้านบาท  เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 และยาบ้า 48,600เม็ด มูลค่า 3ล้านบาท

ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พลตำรวจโท กิตติศักดิ์ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค6 ได้เป็นประธานในการแถลงข่าวการจับกุมยาบ้า 2 ราย รายแรก 6 ล้านเม็ด ส่วนรายที่ 2 จำนวน 48,600 เม็ด รวม 6,048,600 เม็ด โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร พล.ต.ต. อมรศักดิ์ เกษมศิริ รอง ผบช.ภ.6 นายโชคชัยรักเกื้อ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชรนายสราวุธ ภักดี ผอ.ป.ป.ส.ภาค 6 และคณะร่วมการแถลงข่าว ภายในห้องแถลงข่าว มียาบ้ากว่า3 ยี่ห้อถูกวางเรียงรายเกือบเต็มหน้าห้องประชุม

ทั้งนี้ พล.ต.ท. กิิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภาค.6 กล่าวว่า การ ติดตามจับกุมยาบ้าครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 6 มีนโยบายปราบปรามผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ขนแรงงานต่างด้าว และการกระทำความผิดกฎหมายอื่น ซึ่งในวันนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร โดยการนำของ พล.ต.ท.โอภาส คงเมือง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร จึงได้บูรณาการภาคีเครือข่ายพร้อมออกแผนปฏิบัติการการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองของตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร และมอบหมายให้ พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.เป็นหัวชุดปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวต่อเนื่อง โดยมีผลการปฏิบัติและจับกุมตลอดมา และต่อมา เมื่อวันที่4 พฤศจิกายน 2567 ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้2คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่อื่นเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยจะผ่านในเส้นทางจุดตรวจป้องกันยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร บ้านเกาะรากเสียด อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ซึ่งเวลาประมาณเที่ยงคืนห้าสิบนาที ในวันเดียวกัน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจยาเสพติด ตรวจพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่น ALLADER สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 3297เชียงใหม่ ต้องสงสัยขับขี่เข้าจุดตรวจ จึงแสดงตัวเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถเข้าทำการตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่หยุดรถให้ตรวจ และได้ฝ่าฝืนสัญญาณเจ้าพนักงานจราจร เร่งเครื่องหลบหนีผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปเส้นทางเข้าเมืองกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้รถยนต์ติดตามอย่างกระชั้นชิด และพยายามเบียดรถของ ผู้ต้องสงสัยเข้าเส้นทางเบี่ยงออกจากสายหลัก ซึ่งเป็นบริเวณจุดกลับรถใต้สะพาน หมู่ 6 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ซึ่งคนขับรถที่หลบหนีไม่ชำนาญเส้นทาง และเป็นไปตามแผนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางไว้ พอเข้าโค้งใต้สะพานรถคันดังกล่าวได้เสียหลักชนตอหม้อสะพานพลิกคว่ำ คนขับติดอยู่ในตัวรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายณัฐพล หรือเต็ง  ดอกท้อสีไพร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 9 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ขับขี่ไว้และทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว

จากการตรวจสอบภายในรถดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 30 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวม 6,000,000 เม็ด รวมมูลค่า 360 ล้านบาท โดยมีกระสอบวางซ้อนชนิดไม่มีอะไรปกปิดเต็มภายในเก๋งรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งส่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในประการที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน”    นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนคร ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา มีคดีที่ติดค้างไม่น้อยกว่า 10 คดี

พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ยังได้กล่าวอีกว่า ต้องขอขื่นชมก่รทำงานของตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งการทำงานเช่นนี้จะสำเร็จก็มี2ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกก็คือ ผู้บริหารทุกฝ่ายที่ได้บูรณาการร่วมกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ว่าจังหวัดกำแพงเพชร ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงาน ป.ป.ส.ภาค 6 และส่วนที่สองก็เป็นผู้ปฎิบัติที่มีความเข้มแข็งจริงจัง เสียสละ ทุ่มเทในการที่อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบสุขประเทศชาติเกิดความมั่นคง แต่อย่างไรก็ดี ปัญหายาเสพติดก็ยังไม่หมดไป ซึ่งยังคงจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันในการที่จะมุ่งมั่นและเพิ่มความเข้มในการตรวจค้นอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อให้ยาเสพติดของเราลดน้อยและหมดไปในที่สุด

ด้านนายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทีมงานตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร และผู้เข้าร่วมที่สามารถสกัดกั้นยาเสพติดในช่วงเวลาที่ติดกันสองเหตุการณ์สำคัญ ในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน ที่เราเพิ่งแถลงข่าวไปเรื่องการสกัดกั้นผู้ที่ขนยาเสพติดจากภาคเหนือมาได้ประมาณ 4,000,000 เม็ด ขณะเดียวกันอีกไม่กี่สัปดาห์ก็ได้ 6,000,000 เม็ด คือขาลงจากภาคเหนือเข้าสู่ภาคกลางหรือปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร ในขณะเดียวกันก็จับได้ 4 หมื่นกว่าเม็ดขึ้นไปทางภาคเหนือ ต้องถือว่าในการตั้งด่านจะตั้งเราสามารถสกัดกั้นจับกุม บุคคลเหล่านี้ได้จัดการยาเสพติดได้หากทะลุไปถึงแหล่งที่ไปแพร่กระจายหรือจำหน่ายความเดือดร้อนแก่ลูกหลานเยาวชนตลอดจนพี่น้องประชาชนคนไทย

ส่วนคดีที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ       ยาเสพติดกำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ (ส่วนล่วงหน้าคัดรถ) ให้สัญญาณว่ามีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ALTIS สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ขห 6290 เชียงใหม่ ต้องสงสัยขับขี่เข้าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อเรียกทำการตรวจค้น มีผู้โดยสารในรถจำนวน 2 คน มีอาการแสดงพิรุธ จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถ จนพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบวางอยู่ท้ายรถยนต์คันดังกล่าว จำนวน 48,600 เม็ด รวมมูลค่า 3 ล้านบาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ หรือเทพ แก้วคำ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2หมู่ 6ตำบลปากกาง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ผู้ต้องหาที่ 1 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และนายกิจชาดา หรือเจมส์ เตชะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 6 ตำบลปากกาง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ผู้ต้องหาที่ 2 “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเป็นผู้ขับขี่รถ (รถยนต์) เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนคร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุเทพ อินทจันทร์ กำแพงเพชร