15-11-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ขนมมด ขนมไทยโบราณที่ยังคงอยู่คู่เมืองสงขลาและหากินยาก และยังคงเหลืออยู่เพียงเจ้าเดียวในเมืองสงขลาที่สืบทอดมาจากคุณแม่เป็นรุ่นที่สองที่มีให้ชาวสงขลาได้กิน ที่ตลาดวันศุกร์เพียงวันเดียวเท่านั้นในทุกสัปดาห์ ขายดิบขายดีจนทอดไม่ทันขาย ลูกค้าติดใจในความอร่อยสูตรโบราณ
วันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ที่ ตลาดนัดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเปิดตลาดเฉพาะวันศุกร์เพียงวันเดียวในทุกสัปดาห์ นางเลขา แซ่เอี้ยว อายุ 57 ปีพร้อมด้วยนางสาวพรหมพร พรหมยก อายุ 29 ปี บุตรสาวซึ่งเป็นชาวสงขลา ได้มาตั้งโต๊ะเปิดร้านขายขนมมด-ขนมค้างคาว บริเวณประตูทางเข้าที่ว่าการอำเภอฯ ซึ่งทอดกันสดๆร้อนๆตรงบริเวณนั้น โดยคุณเลขาได้ปั้นขนมมดและขนมค้างคาวเสร็จมาจากบ้านเรียบร้อยแล้ว เพราะหากมายืนปั้นขนมทั้ง 2 ชนิดที่บริเวณนี้ก็ไม่สามารถจะทำได้ทัน เฉพาะยืนทอดขนมมดและขนมค้างคาว 2 กระทะอย่างเดียวก็ทอดแทบจะไม่ทันกับลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากขนมมด ขนมไทยโบราณที่ยังคงอยู่คู่เมืองสงขลาและหากินยาก และที่สำคัญยังคงเหลืออยู่เพียงเจ้าเดียวในเมืองสงขลาที่สืบทอดมาจากคุณแม่เป็นรุ่นที่สองที่มีให้ชาวสงขลาได้กิน ที่ตลาดวันศุกร์เพียงวันเดียวเท่านั้นในทุกสัปดาห์ ซึ่งขายดิบขายดีจนทอดแทบไม่ทันขาย เนื่องจากมีลูกค้าเข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่องเพราะติดใจในความอร่อยสูตรโบราณของขนมมดของคุณเลขา โดยจะขายขนมมด 6 ชิ้น 20 บาท มีทั้งแบบข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ มีไส้หวานไส้เดียวส่วนขนมค้างคาว 3 ชิ้น 20 บาทเป็นไส้กุ้ง อีกทั้งแม่ค้ามีอัธยาศัยดีกับลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขนมขายดิบขายดีที่ลูกค้าจะต้องมาอุดหนุนทุกวันศุกร์ที่ตลาดแห่งนี้
ขนมมดเป็นขนมหวานประเภททอด บางถิ่นในภาคใต้เรียกว่า “ขนมหัวล้านทอด”ทำจากแป้งข้าวเหนียว ลักษณะกลมแบน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว สอดไส้มะพร้าว หรือไส้ถั่วเขียวกวน รสหวาน มัน รับประทานคู่กับเครื่องดื่มประเภทน้ำชา – กาแฟ ขนมมดเป็นขนมที่ทำกินต่อๆกันมานานแล้ว แต่คงมีหลังจากมีขนมหัวล้านแล้ว เพราะคนชนบทโบราณมักจะนำอาหารที่ใช้นึ่งแล้วมาทอด การทอดต้องใช้น้ำมัน ทำให้กลิ่น และรสชาติดี และขนมเก็บไว้ได้นานกว่า ดังนั้นขนมมดน่าจะมาจากขนมหัวล้าน เพราะวัตถุดิบทุกอย่างเหมือนกัน สันนิษฐานว่า ขนมมดน่าจะเกิดจากภูมิปัญญาการถนอมอาหาร โดยการนำขนมหัวล้านที่เหลือมาทอดเพื่อกันบูด หรือเน่าเสีย ปัจจุบันนี้ขนมมดในเมืองสงขลาหากินยาก และยังคงเหลืออยู่เพียงเจ้าเดียวในเมืองสงขลาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นรุ่นที่สองที่มีให้ชาวสงขลาได้กิน
นางเลขา แซ่เอี้ยว เจ้าของร้านขายขนมมด-ขนมค้างคาว กล่าวว่า ขายขนมมดมานาน10 กว่าปีแล้ว ในส่วนของสูตรขนมมดเป็นสูตรของคุณแม่ซึ่งเป็นสูตรโบราณดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาเพราะเมื่อก่อนคุณแม่ทำอยู่ตอนนี้แม่ปลดเกษียณแล้ว ก็เลยมาทำต่อจากคุณแม่และมาขายแทนซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 สำหรับส่วนผสมประกอบด้วยแป้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ และที่ลูกค้าติดใจขนมมด ก็คือ กรอบนอกนุ่มใน โดยไส้จะเป็นไส้ถั่วปนมะพร้าวที่ขายอยู่มีขนม 2 อย่างก็คือขนมค้างคาวไส้เค็มก็คือไส้กุ้ง ส่วนขนมมดมีไส้หวานอย่างเดียว
ผู้ใดสนใจจะลองลิ้มชิมรสชาติความอร่อยของขนมมดกรอบนอกนุ่มในของคุณเลขาและลูกสาวก็แวะเข้าไปชิมได้ที่ตลาดนัดวันศุกร์หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลาโดยเดินเข้าไปบริเวณประตูทางเข้าที่ว่าการอำเภอฯก็จะเจอกับร้านขนมมดของคุณเลขาและลูกสาวที่มีลูกค้ายืนรอเต็มหน้าร้านเพราะคุณเลขาทอดกันสดๆตรงนั้นส่วนคุณพรหมพรบุตรสาวทำหน้าที่ขายอย่างคล่องแคล่วว่องไวเพื่อให้ทันกับลูกค้าที่มายืนรอขนมมดร้อนๆขึ้นจากกระทะและสามารถโทรจองล่วงหน้าที่หมายเลข 082-7297148 และแวะมารับขนมมดได้ เมื่อสุกแล้วโดยไม่ต้องยืนรอ