ข่าวทั่วไป

หนุ่มวัย 28 ปี ลมชักกำเริบพลัดตกคลอง ย่านสุขสวัสดิ์

หนุ่มวัย 28 ปี ลมชักกำเริบพลัดตกคลอง ย่านสุขสวัสดิ์

วันที่ 27 มกราคม 2564 เวลา 20.00 น. อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุกู้ชีพบูรณะ ( โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ) มีเหตุผู้พลัดตกลงไปในน้ำ แล้วหมดสติภายในที่เกิดเหตุ บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 60 จึงเร่งรัดจัดกำลัง พร้อม อาสาสมัครกู้ชีพบูรณะ และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.)เขตราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่ออาสาสมัครไปถึงมี่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บนอนหงายหมดสติเนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำโคลน ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายต้น ( นามสมมุติ ) อายุ 28 ปี มีอาชีพเพาะต้นไม้สวยงามขายทางระบบออนไลน์ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 60 เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จุดเกิดเหตุเป็นลักษณะสะพานทางเดินเลียบคลองซึ่งเป็นลักษณะทางลัดออกซอยสุขสวัสดิ์ 62ได้ จากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่าผู้บาดเจ็บนั้นเป็นกลุ่มเสี่ยงจากโรคโควิด19 อาสาสมัครจึงเร่งรีบให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนอาการปลอดภัยฟื้นคืนสติดีขึ้นตามลำดับแต่ยังมีอาการมึนงงจากการชักเกร็งแล้วตกลงไปภายในน้ำ หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลเจริญกรุงจึงนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์อย่างเร่งด่วนทันที

ส่วนนางสาวฝ้าย ซึ่งเป็นภรรยาของ นายต้น บอกเล่าว่า แฟนของตนกำลังจะเดินไปทางปากซอยสุขสวัสดิ์ 60 เพื่อที่จะไปหาแม่ที่อยู่ฝั่งสมุทรปราการ พอเดินมาถึงจุดเกิดเหตุอยู่ดีๆแฟนของตนก็มีอาการชักเกร็งขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของตนแล้วก็พลัดตกลงไปในน้ำทันที เป็นจังหวะที่มีพลเมืองดีผ่านทางมาช่วยทันแล้วนำร่างของแฟนซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำโคลนขึ้นมาได้ แต่ว่าแฟนของตนตอนนั้นหมดสติไปแล้วก็มีพลเมืองดีแถวนี้ช่วยกันแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือทันที

ส่วนทางพนักงานกทม.(เก็บขยะ) ชื่อ นาย ยุทธนา แก้วใหญ่ อายุ 40 ปี เป็นคนลงไปช่วยขึ้นมา บอกว่า ผมทำงานเสร็จก็เดินมาที่รถเก็บโทรศัพท์เข้าใต้เบาะ ก็ได้ยินเสร็จ ตู้ม! เลยหันไปดู ก็ได้ยินเสียงคนร้อง ช่วยด้วยช่วยด้วยคนตกน้ำ ผมก็วิ่งไปดูเห็นขา 2 ข้างชี้ขึ้นฟ้า เลยกระโดดลงไปช่วย ทีนี้น้ำโคลนมันลึก ผมลงไปก็ขึ้นตัวแล้ว เลยควานหาแขนจับขึ้นมา พอจับแขนได้ แขนเค้ายังชักกะตุกอยู่ เลยงมไปช้อนหัวเค้าขึ้นมา โคลนก็เต็มหน้า มีอาการชักเกร็งอยู่ เลยตะโกนเรียกคนแถวนั้นมาช่วยกันอุ้มขึ้น ดีกว่าเค้าเป็นคนตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่ก็แย่เหมือนกัน เอาขึ้นคงลำบากมากกว่านี้
เบื้องต้นผู้บาดเจ็บถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยแล้วและจากรายงานทางโรงพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บคนดังกล่าวพักรักษาตัวเพื่อรอดูอาการก่อนพออาการดีขึ้นหรืออยู่ในระดับที่ปลอดภัยดีแล้วจะให้ญาติมารับกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้านอีกครั้ง

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.