หนุ่มเจ้าหน้าที่เครมประกัน ขี่ จยย.เสียหลักพุ่งไถลไปชนรั้วสังกะสีดับสลด ย่านท่าข้าม้
วันที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 22.00 น. ร.ต.อ.กฤษณะ กิมไพศาล รอง.สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม ได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิต ภายในซอย อนามัยงามเจริญแยกย่อยซอยที่ 8 จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบรุดจัดกำลัง พร้อมแพทย์นิติเวช ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณภายในซอย อนามัยงามเจริญ ซอยที่ 8 ถนน พระรามที่ 2 แขวง ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร ตรงที่เกิดเหตุเป็นลักษณะรั้วสังกะสี สีเขียว มีความยาวของรั้ว 50 เมตร ซึ่งล้อมรอบบนที่ดินว่างเปล่า ส่วนบริเวณข้างรั้วสังกะสี พบร่องรอยการถูกเฉี่ยวชนจนสังกะสีเปิดออกจนเห็นคานไม้อย่างเห็นได้ชัดเจน และเป็นรอยทางยาวอีกประมาณ 5 เมตร แล้วพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนน สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นคอกลม สีส้ม กางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อนาย ไพศาล อายุ 35 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ประกันภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง ใบหน้ามีบาดแผลถลอกหลายแห่ง มีเลือดไหลออกทางปากและจมูก แล้วบริเวณหน้าผากมีร่องรอยของการกระแทกอย่างแรงจนเห็นได้ชัดเจน ส่วนบริเวณลำตัวมีร่องรอยถลอกหลายแห่งส่วนที่แขนกับขาก็เช่นกัน ถัดมาใกล้กันประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110i สีขาวแดง ทะเบียน ฬพฉ 597 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงข้างอยู่กับพื้นถนน มีร่องรอยถลอกของสีรถจากการเฉี่ยวชน
จากการสอบถาม น.ส.จำนงค์ อายุ 49 ปี ทำงาน บ.จิวเวอรี่ พักอาศัยอยู่บ้านเช่าใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนนั่งดูทีวีอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงดังโครม ดังมาก จึงเดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงอะไร พอเดินออกมาดูก็พบว่ามีมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วชนกับรั้วสังกะสีข้างทาง มีผู้บาดเจ็บนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนน ข้างๆรถมอไซค์ แต่ก็มีคนที่ขับผ่านไปมาจอดดู และช่วยเหลืออยู่ มารู้ทีหลังว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ตนก็ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ ส่วนทางเพื่อนร่วมงาน ชื่อนายสมัชชา อายุ 31 ปี ที่เพิ่งเจอกันก่อนเกิดเหตุบอกเล่าว่า ตนกับผู้เสียชีวิตนั่งกินกันอยู่ แล้วก็บอกตนว่า ขอกลับเข้าบ้านไปเอาเงินก่อนจะมาหาใหม่ หายออกมาซัก 20 นาทีได้ ก็เลยให้น้องอีกคนนึงขี่ตามออกมาดู พอมาถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นคนมุงดูอะไรกันอยู่ เห็นกำลังปั๊มหัวใจกันด้วย ก็เลยชะลอดู เห็นเสื้อสีส้มๆ คุ้นๆ เดินไปดูใกล้ๆ จึงรู้ว่าเป็นนายไพศาล เลยโทรกลับมาบอกตน และเมื่อทางญาตินายไพศาลมาถึงเห็นผู้เสียชีวิตก็ร้องไห้เสียใจเล่าทั้งน้ำตาว่า นายไพศาลบ่นเครียดๆเรื่องจะโดนย้ายสาขาไปอยู่ที่ต่างจังหวัด และกังวลเรื่องขับรถยนต์ไม่เป็นด้วย วันนี้ตั้งแต่เช้านั่งเงียบไม่พูดจากับใคร จนกระทั่งช่วงเย็นเห็นว่าออกมาข้างนอก ไม่รู้ว่าไปไหน พอมารู้อีกทีก็มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุตรงนี้แล้ว ตนจึงนั่งวินมอไซค์มาดูที่เกิดเหตุทันที
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกภาพจุดเกิดเหตุและสถาพแวดล้อมไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่วนทางแพทย์นิติเวช ต้องส่งมอบให้ทางอาสาสมัครนำร่างส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.