นครราชสีมา/ปวีณาลงพื้นที่ อ.บัวใหญ่ ติดตามคดีช่วยเหลือ 3 ยาย เหยื่อไอ้โม่งหื่นกาม
จากกรณีที่มีคุณยายชาวจังหวัดนครราชสีมา 3 รายถูกคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพยืขื่มขื่นกระทำชำเรา คนร้ายที่ก่อเหตุได้สวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ซึ่งรายแรกอายุ 78 ปี รายที่2อายุ 68 ปี และรายที่3 อายุ70ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ซึ่งยายรายแรกถูกคนร้ายล่วงละเมิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2567 ส่วนรายที่สองถูกคนร้ายล่วงละเมิดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 โดยทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ถูกคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บุกจี้ชิงทรัพย์บังคับล่วงละเมิดกลางทุ่งนาในพื้นที่อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ส่วนรายที่3 เป็นคุณยายวัย 70 ปี ถูกคนร้ายจับถอดเสื้อผ้ามัดมือแต่โชคดีพลเมืองดีผ่านมาก่อนปิดถูกโจรสวมไอ้โม่งข่มขืนกระทำชำเรา ขณะออกไปทำสวนพริกที่ทุ่งนาคนเดียว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2567 ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมาใกล้เคียงกันกับบริเวณที่เกิดเหตุของยายสองรายแรก เบื้องต้นคาดว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังจับกุมคนร้ายไม่ได้
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 4 ม.ค.68 ที่ห้องประชุมอำเภอบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้เสียหายคุณยายทั้ง 3 ราย เดินทางมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งรัดติดตามขอความช่วยเหลือความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ซึ่งได้ประสานข้อมูลค่ะพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 โดยมี พล.ต.ต.ระพี พงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.อก.ภ.3 พ.ต.อ.คะเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จ.นครราขสีมา พ.ต.อ.รณรงค์ สุรทศ ผกก.สภ.บัวใหญ่ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค3 สืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา และกำลังเจ้าหน้าที่ในท้องที่กว่า 3 นาย เข้าร่วมประชุม สรุปและรับฟังความคืบหน้า ภายหลังจากรับฟังรายละเอียดแล้ว ก็จะได้นำตัวผู้เสียหายทั้งหมดลงพื้นที่ไปยังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบและเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นนางปวีณา ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหญิงชราผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความตำรวจแล้วรวมทั้งสิ้น 9 ราย แยกเป็นในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ 5 ราย อ.โนนแดง 1 ราย อ.บ้านเหลื่อม 2 ราย และ อ.แก้งสนามนาง 1 ราย คาดว่ามีผู้เสียหายอีกหลายๆ อยากให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายรู้สึกสบายใจขึ้นมาก จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินหน้าดำเนินการตรวจ DNAคนร้ายได้ โดยการตรวจหาจากผู้เสียหายทั้งหมด9ราย ปรากฏว่ามี 4 รายที่มี DNAของผู้กระทำความผิดตรงกัน ส่วนอีก 5 รายยังไม่สามารถตรวจได้ คาดว่าผู้กระทำความผิดน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน ขอขอบคุณ ผบช.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ช่วยเร่งรัดติดตามเรื่องนี้ หากประชาชนที่ทราบเบาะแสของคนร้ายขอให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสทางตำรวจจะช่วยปกปิดข้อมูลให้ความปลอดภัยแจ้งได้กับผู้แจ้งได้ ด้วยความปลอดภัยของคนในพื้นที่ และเร่งจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ด้านพล.ต.ต.ระพี พงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2566จนถึงปี 2567มีผู้เสียหายทั้งหมด 9 ราย ขณะนี้ได้ตรวจผู้ต้องสงสัยไปร่วม 20 รายแล้วแต่ยังไม่ตรงกับข้อมูลของผู้ร้ายที่กระทำความผิด โดยคนหลายรายนี้จะเลือกเป้าหมายเป็นสตรีผู้สูงอายุ ใช้เวลาก่อเหตุเวลา 11:00-14:00 นเลือกเหยื่อที่อยู่เพียงลำพังตามหัวไร่ปลายนา จากการสอบถามกับผู้เสียหายพบว่ารูปพรรณของคนร้ายเป็นคนรูปร่างผอม สูงประมาณ 170 มีพฤติกรรมก่อเหตุโดยการเข้าจากด้านหลังสวมหมวกไอ้โม่ง ล็อคคอไม่ใช้อาวุธใช้เพียงกำลังกายและใช้คำขู่เป็นสำเนียงอีสาน หวังต่อทรัพย์และล่วงละเมิดทางเพศ บางรายมีการใช้จักรยานยนต์ในการประกอบเบียร์ จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานเร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษ โดยทางท่าน ผบช.ภ.3 ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเคร่งครัดและเร่งรีบรวดเร็วในการติดตามตัวคนร้าย วันนี้ได้ประสานไปยังผู้นำชุมชนและประชาชนหากพบผู้ต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งมีรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับการนำจับคนร้ายที่มี DNA ตรงตามข้อมูล นอกจากนี้ยังฝากถึงคนร้ายว่าคนร้ายน่าจะมีแม่ที่อายุใกล้เคียงกับผู้เสียหายที่ถูกกระทำเช่นกัน หากมีคนมากระทำเช่นนี้กับญาติพี่น้องจะรู้สึกเช่นไร หากมีจิตสำนึกให้มามอบตัว โทษหนักจะได้เป็นเบา
บรรยายภาพ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีนำผู้เสียหายเป็นหญิงสูงอายุรายที่ 3เดินทางลงพื้นที่สภ.บัวใหญ่ติดตามคดีข่มขืน
/สัมภาษณ์ปวีณา /สัมภาษณ์ รอง ผบช.ภ.3