ข่าวพาดหัว

ปทุมธานี – เหยื่อรายใหม่ร้องกัน จอมพลัง แก๊งค์ LGBTQ สาดน้ำซุปทำร้ายร่างกายและข่มขู่เอาเงิน

ปทุมธานีเหยื่อรายใหม่ร้องกัน จอมพลัง แก๊งค์ LGBTQ สาดน้ำซุปทำร้ายร่างกายและข่มขู่เอาเงิน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ก.พ.68 ที่ สภ.คลองหลวง กัน จอมพลังพาลุยกลุ่มทะลุถุง LGBTQ รังสิต พาผู้เสียหายรายใหม่ จากเคสถูกสาดน้ำร้อนเข้าแจ้งความเพิ่ม เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย และมีการบังคับให้โอนเงิน จำนวน 50,000 ถ้าไม่จ่ายจะถูกทำร้ายต่อ และมีการบังคับให้เซ็นต์เอกสารบางอย่างมาทราบทีหลังว่าเป็นสัญญาเงินกู้ เพื่อให้ผู้เสียหายจ่ายเงินให้ครบ 50,000 บาท (มีคลิปภาพสลิปโอนเงิน)


ทางด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ผมเดินทางมาดูเกี่ยวกับแก๊งค์โอลิโอ อยู่ที่สภ. คลองหลวง โดยมีมิอากาศขอโทษประชาชนและทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของกลุ่มออดิโอแล้วเห็นน้องกลุ่มนี้เดินไปเดินมาอยู่ที่สภ. แล้วน้องก็เดินมาหาผมซึ่งจริงๆเคสนี้ต้องให้เครดิตตามตำรวจนะครับว่าเค้าแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจและเจ้าที่ก็รับเรื่องแล้วผมก็ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็คุยกับทางผู้กำกับซึ่งทางท่านผู้กำกับก็ได้สั่งการให้กับท่านท่านสารวัตรเร่งดำเนินการกลุ่มนี้โดยผู้พฤติการของกลุ่มนี้คือออกไลล่ารุ่นน้อง ที่ไม่ชอบหน้าเลย ก็อย่างที่เราเห็นคลิปที่ปรากฏคือการสาดน้ำร้อนซึ่งเป็นน้ำซุปร้อนร้อนราดที่หัวคนสาดเข้าไปที่ตัวรวมกันถึงสามครั้งแล้วก็มีการบังคับตัดผมน้องอันนี้คือการทำในร้านอาหารนะครับไม่ใช่ทำในที่ที่รับตาคนอันนี้ทำในที่ที่มีคนอยู่เยอะแยะมากมายไม่แคร์สายตาใครเลยมีการบังคับให้น้องถอดวิชาเรียนให้ถอดวิชาออกแล้วก็ไปตามไล่ล่าเพื่อนของน้องซึ่งมีคลิปอยู่ในคอนโดด้วยซึ่งทำอะไรไม่แคร์โลกไม่สนใจอะไร ก็ไปอัดน้องในห้องซึ่งตอนนั้นน้องกำลังจะอาบน้ำน้องไม่ได้ใส่อะไรเลยวิ่งออกมาจากห้องเพื่อหนีหนีเอาชีวิตรอดต้องไปหลบอยู่ในห้องเพื่อนอันนี้คือพฤติกรรมมันอัดมากทางสารวัตรซึ่งเราก็ชื่นชมว่าลงพื้นที่ไปแล้วสามารถนำตัวบุคคลกลุ่มนี้มาที่สถานีตำรวจได้ซึ่งเมื่อวานนี้เราก็คิดว่าจะจบแล้ว แต่ก็มีคนปากดีโวยวายเมื่อวานเห็นคลิปแล้วที่มีการคุมเข้ามาพลตำรวจเป็นผีผ้าห่มแล้วก็บอกว่าอย่าวุ่นวายงั้นผมก็เลยขอต่อ ผมเลยคุยกับท่านผู้กำกับและขอลุยต่อเคสนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อวานผมประกาศไปว่าใครที่โดนกลุ่มนี้ให้ติดต่อผมมาหาได้เลยซึ่งมีผู้เสียหายติดต่อมาหาผมหลายคนรวมถึงร้านและผมก็ประกาศต่อว่าใครที่เป็นเพื่อนของกลุ่มนี้ถ้าท่านต้องการที่จะย้ายฝั่งมาย้ายอยู่ฝั่งผมก็สามารถติดต่อมาหาผมได้แล้วก็มีคนติดต่อมาหาผมจริงๆเพื่อเอาข้อมูลมาส่งให้ซึ่งมันน่าตกใจมากในกลุ่มนี้มีน้องโผล่มาคือคนที่อยู่ข้างผมน้องถูกกลุ่มนี้อัดเหมือนกัน ผมเห็นมีทั้งคลิปภาพและพฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มแรก โดยมีการบังคับให้จ่ายเงินถ้าไม่อยากโดนอีกต้องหาเงินมาให้ได้ภายในวันนี้วันนี้ โดยตกลงกันที่ 45,000 บาท ส่วนเคสแรกโดนไป 50,000 บาท ซึ่งก็อยากถามว่าเขาหากินกันทางนี้หรือเปล่า ส่วนน้องคนนี้ก็ต้องทำหน้าที่ส่งของให้ ผมก็ถามน้องว่าของนี้คืออะไร น้องบอกว่าเป็นพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้า ท่านขายได้เหรอครับพอร์ตกับบุหรี่ไฟฟ้าท่านมีสิทธิ์อะไรที่จะไปขายพอร์ตกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้วพวกท่านตั้งกลุ่มตั้งตัวมาล่าคนโน้นคนนี้และบังคับให้คนโน้นคนนี้จ่ายเงิน และมีการบังคับให้น้องทำสัญญาเงินกู้ไว้ด้วยในกลุ่มพวกนี้ผมบอกไว้เลยนะครับผมมีหน้าทุกคนมีคลิปทุกคนตอนที่ก่อเหตุมีทั้งหมดใครทำเรื่องฟังผิดผมเอาด้วยเอาทุกคน เพราะพฤติกรรมอุกอาจมาก โดยส่วนน้องคนมานี้โดนมาหลายแบบ และยังมีประเด็นแอบอ้างเจ้าที่ตำรวจ ซึ่งผมก็มองว่าประเด็นนี้ใครก็สามารถแอบอ้างได้แต่เดี๋ยวให้ทางท่านผู้กำกับตรวจสอบอยู่แล้ว


โดยทางด้านน้องผู้เสียหาย กล่าวว่า ในตอนแรกที่หนูทำงานกับเขาหนูก็ไม่รู้ว่าของที่ต้องส่งคืออะไรแล้วพอหนูไปมันคือพอร์ต ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งส่งไปแล้วถ้าเกิดมีปัญหาเค้าก็ไปรับกลับมาได้หนูก็ก็เลยอุ่นใจก็เลยทำโดยตอนแรกหนูมีหน้าที่เป็นคนส่งเค้าให้มอเตอร์ไซค์มาหนึ่งคันแล้วก็ขับส่งในคอนโดบริเวณนั้นแล้วพออยู่ไปอยู่มาประมาณหนึ่งเดือนแรกเค้าเริ่มให้หนูแพ็คของเอง ซึ่งตอนแรกหนูก็ไม่รู้ว่าของที่หนูแพคคืออะไร แล้วหนูก็เลยแพคผิด ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าเค้าให้หนูแพ็คเองซึ่งหนูไม่รู้เรื่อง พอประมาณสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เดือนนั้นคือมีของที่หายเค้าเลยคิดว่าหายเพราะหนู ซึ่งเมื่อเค้าเช็คแล้วเขาก็อ้างว่าของที่หายไปทั้งหมดยอดประมาณ 8,000 บาท เดือนมกราซึ่งเงินก้อนแรกหนูได้ทยอยจ่ายมาหมดแล้ว ซึ่งจากนั้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางเขาได้พูดว่ายอดหนี้โละใหม่เพราะว่ามันยังมีของที่หาอยู่โดยเค้าบอกว่าหนูเป็นคนขโมยทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงาน ซึ่งหนูก็ไม่ยอมรับว่าหนูไม่ได้ขโมย แล้วหนูขอให้เค้าเปิดดูกล้อง ซึ่งเค้าเลยบอกว่าถ้าเกิดดูกล้องยอดปรับจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ซึ่งเราก็บอกเขาหลายรอบว่าให้เปิดดูกล้องแต่เขาก็ไม่ยอมเปิดจนล่าสุดเขาก็บอกว่ายอดทั้งหมดที่ต้องจ่ายคือ 180,000 บาท จากนั้นหนูก็เลยบอกเขาว่าพวกหนูจะขโมยไปทำไมเพื่อนหนูก็มีกำลังที่จะจ่ายได้เค้าก็เลยให้เรียกเพื่อนหนูมาจากนั้นก็มีการตกลงกันจนเหลือ 45,000 บาท ซึ่งจากนั้นหนูก็ตกลงที่จะจ่าย โดยเพื่อนเป็นคนจ่ายให้ก่อน ตอนแรกก็คิดว่ามันจะจบลงแต่เขาก็ได้เรียกหนูลงไปทำสัญญาที่ใต้คอนโดอีกว่าหนูกู้ยืมเงินเป็นยอดทั้งหมด 180,000 บาท โดยเขาบอกว่าให้มาผ่อนจ่ายที่เขาแล้วถ้าเกิดทำงานได้เงินแล้วก็นำเงินตัวนี้ไปจ่ายให้เพื่อน ซึ่งหลังจากที่ หนูเซ็นสัญญาไปแล้วเขาได้ลากหนูขึ้นไปทำร้ายเลย ซึ่งหลังจากนั้นหนูก็พยายามบอกกับเขาว่าให้เช็คยอดเลยว่าของที่หายไปอ่ะเป็นยอดเงินเท่าไหร่หนูจะได้จ่ายตามยอดจริง และเค้าก็ได้ข่มขู่ไว้ว่าถ้าหากหนูแจ้งความเขาทำให้หนูหายไปจากโลกเลย ซึ่งเค้าอ้างว่าเค้ามีแบคตำรวจที่ใหญ่สามารถทำให้หนูหายไปได้เลย


ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า โดยเคสแรกทางเจ้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวมาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วหนึ่งคน โดยเคสแรกกับเคสสองก็จะคล้ายๆกันโดย เคสแรกจะมีคนคุมเชิงหนึ่งคนและทำร้ายหนึ่งคนส่วนเคสที่สองจะมีคนคุมเชิงสองคนแต่ทำร้ายหนึ่งคนส่วนอันนี้เป็นเคสที่สาม ซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจมีเบอร์ของกรมคุ้มครองสิทธิ์ก็จะได้ประสานให้กับน้องน้องไปส่วนผู้ก่อเหตุคดีแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาและปล่อยตัวไปแล้วครับในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายและจะต้องรอผลแพทย์จากผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นทางเจ้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าจะมีประเด็นไหนเกี่ยวข้องอะไรอีกหรือเปล่า และตอนนี้ก็จะดูคดีอั้งยี่ซ่องโจรอยู่ โดยดูจากเคสของแก๊งโอลิโอก็จะเป็นนักศึกษาที่ก่อเหตุกับกลุ่มนักศึกษาเองแล้วก็จะมีก่อเหตุคนนอกด้วยซึ่งเรา ทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ดำเนินการถึงที่สุดหลังจากจบเคสโน้นก็ทราบเคสนี้ต่อเราก็ไม่ทิ้งเราก็ตามต่อและจะมีทีมงานอีกชุดนึงตามต่อผมจะตามไปจนสุดทางเหมือนเดิม ส่วนเรื่องความปลอดภัยของน้องน้องจะมีเบอร์เจ้าหน้าที่ประสานให้และเบื้องต้นจะได้ประสานกรมคุ้มครองสิทธิ์ไว้ก่อน ส่วนของคดีนี้สำหรับแก๊งค์นี้รวมแล้วตอนนี้มีทั้งหมด 3 คดี