เมียตำรวจ ทำร้ายสาวท้อง 4 เดือนถึงหน้าบ้าน อ้างเมาและโมโหที่หาว่าแฟนไปมีสัมพันธ์กับน้อง
จากกรณีที่ เพจเจ๊ม้อย V+ ได้โพสต์คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ความยาว 1 นาที 11 วินาที เป็นลักษณะสาวท้องถูกหญิงสาวอีกกลุ่มมาลุมทำร้ายบริเวณหน้าบ้านจนได้รับบาดเจ็บ โดยคลิปดังกล่าวลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.08 น พร้อมลงข้อความว่า สาวท้อง 4 เดือนกว่า โดนตำรวจและพวกของเมียอีก 5 คน รุมตีน่วม หลังมีปัญหากัน สมุทรปราการ จุดเริ่มต้นเมื่อ พฤศจิกายน 2567 จ๋าสาวท้อง ได้พูดกับเพื่อนของตัวเอง เกี่ยวกับภรรยาของตำรวจนายนี้ ว่า ” ตกลง เพื่อน หรือผัว ” หลังจากอีกฝั่งรู้ข่าว จ๋าก็ได้ฝากเพื่อนไปขอโทษ ว่าตนเองผิดที่พูดไม่คิด ต่อมา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่จ๋าอยู่ในบ้านมีเสียงตำรวจนายหนึ่ง เรียกให้จ๋าออกจากบ้าน เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เมื่อออกมาไม่ทันตั้งตัว ก็โดนกลุ่มภรรยาของนายตำรวจ รุมตี เตะ จ๋าสาวท้อง จึงคู้ตัวเองเพื่อป้องกันลูกในท้อง อีกฝั่งลั่น ” แค่ท้อง ตอนที่กูท้องกูยังตบกับคนอื่นอยู่เลย ” ทางตำรวจที่มาด้วย ก็ยืนห้ามว่าอย่าทำ ทางด้านสามีจ๋าที่อยู่ในบ้าน ก็รีบออกมาและเอาตัวโอบภรรยา แต่ทางฝั่งตำรวจก็ยังไม่หยุดพยายามจะเตะเสยหน้า หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป จ๋ารีบไปหาหมอ พบว่าตนเองมีน้ำออกมาจากชาองคลอดแพทย์ระบุว่าเกิดจากการเกร็งใก้หยุดงานก่อน 3 วัน ทางด้านตำรวจ ติดต่อกลับมาว่า ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขอโทษ และจะชดใช้ค่าเสียหายให้ต้องการเท่าไหร่ จ๋าบอกว่า ไม่ค่ะ จะดำเนินคดีเพราะลูกในท้อง ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ #มีคลิป ดั๊นว่า คุณตำรวจควรรีบไประงับเหตุนะคะ เพราะคุณเองที่มาบ้านเค้า ไม่ใช่ตีเสร็จขอเคลียร์
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็น วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ไปพบกับ คุณจ๋า ผู้เสียหาย โดยเธอตั้งท้องประมาณ 4 เดือน พร้อมเปิดแผลถลอกที่ข้าทั้งสองข้าง และเปิดใบรับรองแพทย์ให้กับทีมข่าวเราดู
คุณจ๋า อายุ 27 ปี เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เขามากันทั้งหมด 6 คน มีผู้หญิง 5 คนและผู้ชาย 1 คน ผู้ชายเป็นตำรวจ และหนึ่งในผู้หญิง 5 คนก็มีแฟนของตำรวจด้วย รถมา 2 คัน มี ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว 1 คัน และ มาสด้า ซีเอ็กซ์ 5 สีดำ 1 คัน ตนไม่รู้ว่าเขาจะมา แต่ก่อนหน้านี้เขามีการดึงแชทกลุ่มแต่ตนไม่ได้เข้า แต่ก็มีการแคปหน้าจอไว้หมดแล้ว แต่ตนไม่ได้เข้าเพราะว่าเรื่องมันจบไปตั้งนานแล้ว คือตอนนั้นตนได้มีการพูดกับเพื่อนของตน ทำนองว่า เพื่อนคนนี้ กับตำรวจคนนี้เป็นพี่หรือผัว คือตอนนั้นมันเป็นเพียงการพูดเล่น ตนไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นตนได้ขอโทษทางฝั่งเพื่อนของตนแล้ว และตนได้มีการฝากขอโทษไปถึงตำรวจแล้ว ตอนนั้นน่าจะประมาณปลายพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคม คือตนได้ขอโทษเรื่องนั้นไปแล้ว แต่ตนไม่รู้ว่าเหตุที่เขามากันเมื่อวานคือเรื่องอะไร เหตุการณ์เมื่อวานคือเขามาเรียกตนอยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นตนได้ยินแล้วเพราะว่านอนกันอยู่ข้างล่าง มีตนมีแฟนตนและลูกคนเล็ก เขาบอกว่าให้ออกมาคุยออกมาเคลียร์กันหน่อย ตนก็เลยออกไปเคลียร์กับเขา เพราะตอนนั้นเราเป็นคนพูดจริงๆมันเป็นความจริง แต่ก็ทำการขอโทษไปแล้ว พอตนออกจากบ้านไปยืนอยู่หน้าบ้านคุยกันไม่กี่คำเขาก็กระชากหัวตนไปตบเลย คนที่กระชากหัวตนเป็นแฟนของตำรวจ ผู้หญิงมาทั้งหมด 5 คนแต่อีก 2 คนเป็นคนรุม และ 2 คนน่าจะยืนถ่ายคลิป ส่วน อีกหนึ่ง คนยืนดูเฉยๆ คนนั้นตนรู้จัก เป็นเพื่อนสนิทของตน ส่วนคนที่เป็นตำรวจพูดแค่ว่าพอได้แล้ว แต่ไม่ได้เข้ามาห้ามอะไร สุดท้ายพอตนล้มลงไปแฟนของตนรีบวิ่งออกมา โอบตนเอาไว้ แฟนของตนได้ ตะโกนบอกไปแล้วว่าเมียผมท้องอยู่ พอได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุด ผู้หญิงก็ยังทำอยู่ แต่มันก็โดนแฟนของตนหมดเลย ตัวผู้หญิงพูดว่าทำไมมึงท้องอยู่แล้วทำไม กูก็เคยท้องเหมือนกันกูท้องกูยังไปตบคนอยู่เลย แฟนตำรวจเป็นคนพูด แล้วเขาก็บอกว่าให้ตนขอโทษ พอเงยหน้าจะขอโทษ เขาก็ทำท่าจะเตะเสยหน้าตน แต่แฟนตนมากันไว้ก่อน ก่อนที่จะตะโกนให้คนอื่นช่วย แล้วแฟนตนก็บอกว่าจะไปแจ้งตำรวจ เขาก็เลยบอกว่าไปแจ้งเลย หลังจากเกิดเหตุตนไปลงบันทึกประจำวันและไปตรวจร่างกายไว้ คือตอนที่ตนล้มลงไป มันมีน้ำออก ตรงกางเกงเต็มเลย ตนรู้สึกเลยว่าน้ำออก ตนก็เลยกลัวว่าลูกตนจะเป็นอะไรก็เลยรีบไปตรวจร่างกายเอาไว้ เพราะทางโรงพักให้ใบไปตรวจร่างกาย พอตรวจร่างกายเสร็จผู้ชายที่เป็นตำรวจเขาก็โทรมาหาตนพอดี โทรมาขอโทษ บอกว่าไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ กะแค่ว่าจะเข้าไปเคลียร์ เขาไม่รู้ว่าตนท้อง เขาเพิ่งมารู้ว่าตนท้องตอนที่แฟนของตนตะโกน ว่าเมียผมท้องอยู่ แล้วเขาก็ถามว่าไปตรวจร่างกายหรือยังตนก็เลยบอกว่ากำลังมาตรวจ เขาจะชดเชยในส่วนของค่าโรงพยาบาลให้ และวันที่ร้อยเวรนัดสืบเขาจะให้ทุกคนไปขอโทษ ตนบอกกับเขาไปว่าตนไม่รับคำขอโทษเพราะเรื่องนี้มันหนักมาก ถ้าเป็นตัวของตนคนเดียวตนอาจจะรับคำขอโทษ แต่นี่ตนมีลูก ถ้าลูกตนเป็นอะไรขึ้นมาทั้ง 6 คนจะรับผิดชอบไหวไหม ผู้ชายเขาเป็นตำรวจที่ สภ.เมืองปากน้ำ เขาก็บอกว่าให้เขาไปหาที่โรงพยาบาลไหม ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร มันไม่ทันแล้ว ตนเสียความรู้สึกไปแล้ว คือทุกคนรู้หมดว่าตนท้องแต่ทำไมถึงยังทำไม่หยุด ตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง แล้วตนเข้าบ้าน 08.00 น. คือเวลาครึ่งชั่วโมง เขาทำร้ายตน ทำทุกอย่าง คือถ้าแฟนของตนไม่อยู่ตนจะเป็นยังไง แล้วลูกของตนคนเล็กก็อยู่ในบ้านใครก็ช่วยไม่ได้ ตนแค่อยากบอกว่าเรื่องนี้เด็กไม่เกี่ยว คนเรามันต้องมีจิตสำนึกของการเป็นแม่คนเพราะเขาก็เคยเป็นแม่คนเขามีลูก เขาต้องแยกแยะ ถ้าจะมีเรื่องทำไมถึงไม่รอให้ตนคลอดก่อน ทำไมถึงต้องทำตอนนี้ ทุกคนรู้ว่าตนมีลูกรู้ว่าตนท้อง พอสามีของตนตะโกน ทำไมถึงไม่หยุดกัน ยังมีการหาให้ตนไปแจ้งความ บอกว่าตัวเองก็เคยท้องเหมือนกันยังไปตบคนอื่นอยู่เลย ถ้าลูกตนเป็นอะไรขึ้นมาทุกคนจะรับผิดชอบไหวไหม ชีวิตเด็กคนหนึ่ง เราแค่อยากให้เขาแยกแยะบ้าง
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยง ทีมข่าวเราได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พบกับ จ่าสิบตำรวจ โชติวิทย์ คมกล้า ผบ.หมู่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ผู้ที่ตกเป็นข่าวตามคลิป ซึ่งเจ้าตัวได้เดินทางเข้าพบกับทางผู้กำกับ สภ.เมืองและพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำและชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะอกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว โดยเจ้าตัวระบุยอมรับว่าวันเกิดเหตุตนเองไปด้วยจริง ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจจะไปพากันไปทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด หลังจากที่ทราบว่ามีการนัดกันไปเคลียร์ ตนเองจึงตั้งใจไปเพื่อจะไปห้ามหากเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งก็จริงอย่างที่คาดการณ์ไว้ วันเกิดเหตุตนเองตั้งใจเพื่อจะไปห้ามไม่ได้ตั้งใจพาฝ่ายหญิงคู่กรณีไปเพื่อจะไปทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ที่ไปพร้อมว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายของน้องผู้เสียหายได้มีการกล่าวอ้างพูดระบุว่า ทางตัวผมเองได้ไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับน้องสาวของตัวเอง น้องสาวคือน้องที่เป็นทางฝั่งญาติของคุณพ่อผม ตอนแรกตนเองก็ยังไม่ทราบเรื่องจนมีการพูดกันปากต่อปากในกลุ่มวัยรุ่น จึงทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นหลังจากนั้นตนเองมาทราบเรื่องอีกครั้งคือช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ฝ่ายของแฟนสาวตนเองและกลุ่มเพื่อนของแฟนสาว จึงเกิดบันทาโทสะและนัดรวมตัวกันเพื่อมาหาฝั่งของผู้เสียหายเพื่อจะเคลียร์ปัญหากัน ยืนยันว่าว่าที่ตนเองไปด้วยนั้น ไปเพื่อป้องกันเหตุ ไม่ให้เกิดการทำร้ายกัน ซึ่งก็เกิดเหตุจริงและตนเองก็เข้าไปห้ามปราบแล้ว ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายท้องอยู่ ตนเองยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน พอเกิดเหตุตนเองและฝ่ายของแฟนผู้เสียหายก็เข้าห้ามปราบและพยามกันแยกออก ส่วนประเด็นที่มีการระบุว่าทั้งหมดไปรุมทำร้ายนั้น ประเด็นนี้ตนเองขอแก้ข่าว แต่ยอมรับว่าคนที่ทำร้ายน้องคู่กรณีนั้นคือแฟนสาวกับเพื่อนของแฟนสาวแค่สองคน ส่วนตัวเองยืนยันไม่มีเจตนาจะไปทำร้ายหรือบุกรุกแต่อย่างใด ส่วนผิดข้อไหนก็ว่ากันไปตามกฎหมายตนเองพร้อมรับผิดในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ในส่วนของตัวเองยืนยันว่าจะไม่มีการใช้อำนาจหรือหน้าที่หรือสิทธ์ความเป็นตำรวจไปกดดันฝั่งผู้เสียหายหรือให้ทางผู้บังคับบัญชาอกมาปกป้องแต่อย่างใด ผิดก็น้อมรับผิดและเข้าสู่ขบวนการของกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีการระบุว่าตนเองพยามโทรไปเพื่อขอเคลียร์และจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียหายนั้น ตนเองโทรไปจริง แต่ไม่ใช่การโทรเพื่อขอเคลียร์ให้จบเรื่อง แต่เป็นการโทรถามอาการน้องผู้เสียหาย หลังจากพอทราบทีหลังว่าน้องท้องอยู่ก็เป็นห่วงน้อง ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับทางญาติของน้องผู้เสียหายแล้วว่าในทางคดีก็ดำเนินการตามกฎหมาย วันนี้ที่อกมาพูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเพราะต้องการพูดในข้อเท็จจริงของมุมตัวเองไม่ได้ออกมาให้รู้สึกเห็นใจตัวเอง
ด้าน นางสาวตาล (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแฟนของ จ่าสิบตำรวจ (หมวกชมพู) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าวเราว่า ประเด็นที่เกิดเรื่องมาจากการที่คู่กรณีไปกล่าวหาว่าแฟนตนเองไปมีสัมพันธ์ กับน้องสาวจริงหรือป่าวเขาพูดกันทั้งปากน้ำแล้ว จึงทำให้เป็นชนวนเหตุในเรื่องนี้ วันเกิดเหตุตนเองและหลานสาวนั้นยอมรับว่าเมาอยู่ และยอมรับว่าผิดลงมือทำไปจริง ส่วนที่บอกว่าท้องอยู่ ตนเองไม่รู้มาก่อนจริงๆ และพอรู้ว่าท้อง จึงมีการพูดแบบนั้นจริงตามคลิป แต่ยืนยันนะว่าพอรู้ว่าเขาท้องตนเองจึงทำแฟนเขามากกว่า ไม่เชื่อลองถามแฟนของผู้เสียหายดูสิ ส่วนที่บอกว่าหกรุมหนึ่งนั้นไม่จริง มีเพียงตนเองกับหลานสาวเท่านั้นนอกนั้นคือเพื่อนสนิทเขาที่ยืนมอง ส่วนที่ผู้เสียหายบาดเจ็บจนน้ำค่ำออกมานั้น เจ้าตัวเอ่ยปากกลับว่า จริงเหรอ !! อันนี้ไม่รู้แต่ก็พร้อมจะเยียวยารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีเพจเอาประวัติวีรกรรมเก่าของตนเองมาลงตรงนี้ตนไม่ปฏิเสธแต่มันมีที่มาที่ไปจึงเกิดเรื่องดังกล่าวมาในอดีต ทั้งนี้ยืนยันว่าเรื่องเกิดมาจากคำพูดของเขาจริง ซึ่งขยายลุกลามและถูกพูดต่อกันในกลุ่มอย่างกว้างขวางจนรู้ถึงอดีตแฟนตนเองซึ่งอดีตแฟนก็ไม่ชอบหน้ากับแฟนใหม่ที่เป็นตำรวจอยู่ด้วยจึง ซึ่งมันเป็นอดีตและพอมีคำพูดดังกล่าวออกมาจนมีการทะเลาะกันมานานแล้ว วันเกิดเหตุตั้งใจจะไปเคลียร์ แต่พอได้ฟังคำตอบของคู่กรณี ที่บอกว่าแค่พูดเล่น จึงเกิดอารมณ์โมโหบวกกับความเมาจึงก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่กลุ่มเพื่อนของฝั่งที่ก่อเหตุออกมายืนยันเสียงแข็งว่า ไม่มีหกรุมหนึ่งแต่อย่างใด ด้าน นางสาว ยุ้ย (นามสมมุติ) คนนี้คือคู่กรณีที่ระบุว่าเป็นน้องสาวของ ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับพี่ชายตัวเอง พอมีการพูดคำดังกล่าวอกไปทำให้เกิดความเสียหายกับตนเองและ มีการพูดจาเยอะเย้ยใส่กันจนขยายวงกว้างทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ซึ่งที่ผ่านมาเขาทั้งสองตีกันมาตลอดหนึ่งเดือน ตนเองเป็นน้องสาวของพี่เจม เจมคือตำรวจ พอมีคำพูดดังกล่าวออกมาและพูดต่อกันจึงกลายเป็นเรื่องที่น่าเกลียดและรับไม่ได้ วันเกิดเหตุยอมรับว่าเมาไปด้วย พอไปเจอคู่กรณีแล้วได้คำตอบจึงเกิดความโมโห ยืนยันว่าไม่ทราบว่าคู่กรณีท้องมาก่อน และไม่มีการรุมแต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ออกมาระบุว่า ในส่วนของตัวตำรวจที่ปรากฏในข่าว ตอนนี้ได้เรียกตัวมาสอบปากและตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้งวินัยและอาญาแล้ว ยืนยันจะไม่มีการปกป้องลูกน้องแต่อย่างใด ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจนายนี้เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุก ส่วนจะร่วมกันทำร้ายร่างกายด้วยหรือไม่นั้นจะต้องรอสอบพยานและตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง หากพบว่าร่วมกันกระทำความผิดทำร้ายร่างกายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มอีกครั้ง ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าตัวย้ายจากตำแหน่งเดิมมาประจำที่ศูนย์ ศปก. ส่วนฝั่งผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้เรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมและรอผลการชันสูจน์ของแพทย์อีกครั้ง ส่วนตัวผู้เสียหายพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่ผู้เสียหายแจ้งว่ายังไม่พร้อมเดินทางมาเพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจรักษาต่อ
*******************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ