ข่าวพาดหัวจับกุม

สุดฉาว! จับกุม “โค้ชฟุตซอลโรงเรียนดัง” ดีกรีแชมป์ ล่วงละเมิดทำอนาจารเด็กบังคับถ่ายคลิปนาน 8 เดือน

สุดฉาว! จับกุม “โค้ชฟุตซอลโรงเรียนดัง” ดีกรีแชมป์
ล่วงละเมิดทำอนาจารเด็กบังคับถ่ายคลิปนาน 8 เดือน

พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รรท.ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. นำกำลังเข้าจับกุม นายธีรวัฒน์ หรือ “โค้ชตูน” อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 883/2568 ข้อหา “กระทำอนาจารเด็ก และ พรากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, บังคับขู่เข็ญหรือชักจูงให้เด็กประพฤติมิชอบ” ได้ที่ สนามกีฬาวิทยาลัยเทคโนโลยีทักษิณาบริหารธุรกิจ ถ.รามอินทรา แขวง และเขตคันนายาว กทม.

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ มีตำแหน่งเป็นถึงโค้ชนักกีฬาทีมฟุตซอลของโรงเรียนราชวินิตมัธยม ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงกีฬานักเรียนเป็นอย่างมาก จากการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตซอลกรมพลศึกษามาได้ถึง 3 ปีซ้อน แต่กลับมีพฤติกรรมกระทำอนาจารนักเรียนชายที่เป็นนักกีฬาในทีมของตัวเอง ด้วยการบังคับให้ใช้มือ และปากสำเร็จความไคร่ให้ตัวเอง และ บ่อยครั้งยังมักบังคับให้นักเรียนชาย ร่วมเพศกับหญิงสาวพร้อมกับตนเองในลักษณะสวิงกิ้ง แล้วตั้งกล้องถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกเก็บไว้ โดยทำเช่นนี้มานานกว่า 8 เดือนแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.2567 จนถึงเดือน ก.พ.2568 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีเด็กนักเรียนตกเป็นเหยื่อ 3 ราย โดยเหยื่อส่วนใหญ่จำยอมไม่กล้าขัดขืน เพราะถูกผู้ต้องหาใช้ตำแหน่ง และอำนาจในการควบคุมนักกีฬาสั่งบังคับให้กระทำดังกล่าว

ต่อมากลุ่มเด็กนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อเริ่มทนกับพฤติกรรมของ นายธีรวัฒน์ ไม่ไหว จึงนำเรื่องนี้ไปบอกให้ผู้ปกครองทราบ ก่อนพากันเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจ ปคม. จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และ นำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากนั้นจึงนำตัวขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักของ “โค้ชตูน” ก่อนสามารถตรวจยึดของกลาง ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และ เสื้อยืด Red Bull และกางเกงขาสั้น 1 ชุด

จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือและไอแพดของผู้ต้องหา ยังพบภาพนิ่งและคลิปวิดีโอลามกอาจารของเด็กนักเรียนชายหลายราย ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาฟุตซอลของทีม ลักษณะกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นสอบสวนนายธีรวัฒน์ ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหรือนักกีฬาในทีมแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า เคยให้เหยื่อช่วยตัวเอง หรือสำเร็จความใคร่ด้วยมือต่อหน้า และบันทึกภาพวิดีโอเก็บไว้จริง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ยังมี “โค้ชฟุตซอล” อีกหนึ่งโรงเรียนดังแถวถนนเก่าแก่ของกทม. ใกล้ๆริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีพฤติกรรมเอาเงินรางวัลจากการแข่งขันความสำเร็จของนักกีฬาไปใช้เป็นการส่วนตัว และไม่สามารถชี้แจงได้ ทั้งที่มีหลักฐานต่างๆชัดเจน แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่สามารถจัดการ หรือ มีบทลงโทษอะไรกับโค้ชคนนี้ได้ เนื่องจากมีแบ็คอัพคอยดูแลเป็นอย่างดี แถมหน้าที่การงานยังเจริญก้าวหน้าสวนทางกับพฤติกรรมและการทำงานเสียสละของการเป็น “พ่อพิมพ์ของชาติ” จนทำให้นักเตะฟุตซอลหลายคนที่เคยโดนเอารัดเอาเปรียบ รวมไปถึงบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองที่รู้เรื่องนี้ยังคงคาใจไม่หายว่า ทำไมไม่จัดการให้เด็ดขาดเสียที คาดว่า จะมีการกระชากหน้ากากให้สังคมได้รับรู้ในเร็ววันนี้