ชลบุรีจัดโครงการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day)
นายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) โครงการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ณโรงเรียนบ้านตาลดำ ตำบลหนองอิรุณอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีโดยมีว่าที่ร้อยตรีศราวุธกรจิระเจริญนายอำเภอบ้านบึงนางพรทิพย์ศรีสมโภชน์ เกษตรจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้
นางพรทิพย์ ศรีสมโภชน์ เกษตรจังหวัดชลบุรีกล่าวว่าจังหวัดชลบุรีร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรีสถานีพัฒนาที่ดิน สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพาคูโบต้าเบญจพล สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายเกษตรกร จัดงานเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และการตระหนักในเรื่องการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตร เป็นรูปแบบ 3R Model ประกอบด้วย 1.Re-habbit เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช เป็นการปลูกแบบไม่เผา 2.Replace With High Value crops : เปลี่ยนชนิดพืชและวิถีการปลูกพืชบนพื้นที่สูง จากพืชไร่เป็นไม้ผลไม้ยืนต้นพืชเศรษฐกิจแบบผสมผสานที่มีมูลค่าสูง และ3.Replace With Alternate crop : เป็นการปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นราบโดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์ต่อดินต่อไป
สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้มุ่งเน้นให้เกษตรกรมีทางเลือกในการจัดการวัสดุทางการเกษตรโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกร จำนวน 150 คนผ่านสถานีเรียนรู้ 8 สถานี ได้แก่การทำปุ๋ยหมัก การเพาะเห็ด การปลูกพืชใช้น้ำน้อย การทำกระถางต้นไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เครื่องจักรกลทางการเกษตร อันตรายจากฝุ่น PM2.5 เมล็ดพันธุ์พืชมีคุณค่า และเครือข่ายรวมพลัง เสริมกำลังหยุดเผา
ด้านว่าที่ร้อยตรีศราวุธกรจิระเจริญนายอำเภอบ้านบึง กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568จนถึงปัจจุบัน จังหวัดชลบุรีพบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร จำนวน 156 จุดอำเภอบ้านบึงพบจุดความร้อนทางด้านการเกษตรมากที่สุด จำนวน 69 จุดคิดเป็นร้อยละ 44.23 ของจังหวัดชลบุรีโดยแบ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 34 จุด พื้นที่ 499.5 ไร่ และไม่ใช่พื้นที่เกษตรกรรม จำนวน 35 จุดเป็นพื้นที่รกร้างหญ้าข้างทาง สุสานและเขตป่าไม้ พื้นที่ 588 ไร่ รวมพื้นที่ที่ถูกเผา จำนวน 1,087.5 ไร่ จึงได้จัดตั้งศูนย์ในการป้องกัน กำกับ ติดตาม สถานการณ์ไฟป่าโดยมีมาตรการต่างๆซึ่งสามารถดำเนินการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้ 12 รายด้านนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกล่าวว่าการจัดเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญ ปัจจุบันปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องที่สามารถนิ่งนอนใจได้หรือเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป เนื่องจากนับวันปัญหาดังกล่าวยิ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้น โดยเห็นได้จากตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรี ได้ประสบปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นPM2.5 มากอย่างต่อเนื่องสาเหตุหลักของการเกิดไฟป่านั้นมาจากพฤติกรรมมนุษย์ เช่น การเข้าไปหาของป่า หรือการแกล้งจุดการเผาเพื่อเริ่มต้นสำหรับการทำเกษตรครั้งใหม่สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาส่งผลในวงกว้างสร้างความเดือดร้อนส่งผลกระทบและจำเป็นต้องช่วยกันยับยั้งปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
วิศาล แสงเจริญ
ผู้สื่อข่าวประจำ จังหวัดชลบุรี