ชาวบ้านผวา ชายปริศนาบุกพังร้านตอนตี 4 ริมตลาดริมทางรถไฟธนบุรี
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
จากกรณีผู้ใช้ Facebook คนหนึ่ง โพสต์คลิปชายปริศนาบุกพังร้านโดยไร้สาเหตุ พร้อมระบุข้อความไว้ว่า “บุคคลอันตรายคนคลั่งยา มาพังของที่ร้านคะ เจอผู้หญิงมันจะเดินตามคะ น่ากลัวมากๆคะ
#บางกอกน้อย” ต่อมาผู้เสียหายผุดเพิ่มเติม ได้นำวงจรปิดเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 คอมเม้นเพิ่มเติมระบุว่า “เข้ามาทำลายของที่ร้าน น่าจะใช่คนเดียวกันครับ อยู่ที่ร้านลูกชิ้นปลาบรรทัดทอง สาขาตลิ่งชัน ไฟแดงกลับรถวัดมะกอก”
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารและน้ำดื่มริมทางย่านตลาดศาลาน้ำร้อน (ตลาดสถานีรถไฟธนบุรี) ศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดขายในช่วงเย็นจึงยังไม่พบเจ้าของร้าน ทีมข่าวสังเกตร้านข้าวของยังอยู่ครบ แต่ลูกกุญแจบุบเบี้ยวเล็กน้อย
นายสุทรรศน์ สืบวงศ์ อายุ 44 ปี หัวหน้าวินจยย. (วิน สถานีรถไฟธนบุรี) เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากเจ้าของร้าน แต่ก็ยังไม่เห็นตัวใช้คนก่อเหตุ พร้อมยืนยันว่าเจ้าของร้านเป็นคนทำมาหากิน เป็นเด็กพื้นที่คนในพื้นที่รู้จักหมด ไม่เคยมี ศัตรูที่ไหน
ส่วนคนก่อเหตุตอนแรกก็เข้าใจผิดว่าเป็นชายเร่ร่อนขาประจำ แต่ชายเร่ร่อนขาประจำคนนี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และเมื่อดูในกล้องวงจรปิดก็พบว่า ชายที่ก่อเหตุในคลิป ไม่ใช่คนเร่ร่อนขาประจำ คิดว่าน่าจะเป็นคนต่างถิ่น ใช้ยาเสพติดจนเกิดอาการสติไม่ดี
ส่วนถามว่าน้องไปแจ้งความหรือยัง หลังจากโพสต์เอาไว้ ยอมรับว่าตัวน้องเจ้าของร้านน่าจะไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต จึงโพสต์เตือนภัยเอาไว้ ซึ่งก็จะเห็นว่ามีเจ้าทุกข์หลายคนที่โดนชายคนนี้เค้าก่อเหตุพังร้านหลายเคส
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตนเองในฐานะพื้นที่และพ่อค้าแม่ค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากังวลใจมาก เพราะถือว่ามีเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก แม้โดยปกติในพื้นที่จะมีชายเร่ร่อนแต่ชายเร่ร่อนในพื้นที่จะไม่ก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ซึ่งหลังจากวันที่ทราบเหตุทุกคนก็ช่วยกันป้องกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาถ้าพบอีกก็อาจจะประสานเจ้าหน้าที่พร้อมอยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสอดส่องดูแล พื้นที่จะได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางมาที่ สน. บางกอกน้อย ซึ่งตำรวจ สามารถควบคุมตัว นาย ไพศาล ปรากา อายุ 25 ปี โดยสภาพ นายไพศาล ที่ดวงตาข้างขวา ปูดบวม และศรีษะปูดบวม และนิ้วมือมีบาดแผล คาดว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยนายไพศาล พูดคุยกับผู้สื่อข่าว ลักษณะเหมือนคนวิกลจริต กล่าวว่า ตนรู้สึกผิดและอยากขอโทษ ส่วนบ้านของตน อยู่ที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ตนมาอยู่กรุงเทพเพื่อจะมาหางานทำแต่ก็ยังไม่มีงานอะไรทำเลย ตอนนี้ตนรู้สึกคิดถึงบ้านอยากจะกลับบ้าน แล้วอยากจะให้หน่วยงานกู้ภัยในพื้นที่ช่วยตามหาพ่อกับ แม่ของตนให้หน่อย ตนอยากบอกว่าตนขอโทษตนผิดไปแล้ว
โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการบันทึกทางประวัติ และนำตัวนายไปศาลไปตรวจสอบ อาการทางจิตประสาท ที่ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา
///
