ข่าวพาดหัวประท้วง คัดค้าน

คัดค้านโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรต์ 3 ปีแห่งการต่อสู้ของคนลุ่มน้ำลา

คัดค้านโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรต์ 3 ปีแห่งการต่อสู้ของคนลุ่มน้ำลา****

ชุมชนแม่ลาน้อยชาติพันธุ์กว่า 700 คน เดินหน้าต่อต้านเหมืองแร่ฟลูออไรต์ ร่วมประกาศจุดยืนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิทธิชุมชน เรียกร้องให้ยุติการอนุมัติการทำเหมืองแร่ในพื้นที่****


วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2568 พี่น้องชาติพันธุ์เครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำลาในพื้นที่อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ร่วมกันจัดงาน ครบรอบ 3 ปี ขบวนต่อสู้ของคนลุ่มน้ำลา ภายใต้หัวข้อ “สายน้ำ ภูเขา และผู้คน 3 ปีแห่งการต่อสู้ของคนลุ่มน้ำลา” ณ สะพานข้ามแม่น้ำลา บ้านหัวลา ตำบลสันติคีรี อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน**”*


งานนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงพลังของชุมชนท้องถิ่นที่ยืนหยัดต่อต้านโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแหล่งน้ำ วิถีชีวิต และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการปนเปื้อนสารเคมีในแม่น้ำลาที่เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชน ทั้งนี้ ชาวบ้านยืนยันว่าการดำเนินโครงการเหมืองจะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมในระยะยาว ภายในงานมีขบวนเดินรณรงค์ คัดค้านโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรต์กิจกรรมวงเสวนา “สายน้ำ ภูเขา และผู้คน 3 ปีแห่งการต่อสู้ของคนลุ่มน้ำลา” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม นักกฎหมาย นักการเมือง และตัวแทนชุมชนร่วมเสวนา COMMUNITY TALK ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากเครือข่ายชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาและเหมืองแร่ทั่วประเทศ การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อสะท้อนวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ การแถลงการณ์และยื่นหนังสือต่อภาครัฐ เรียกร้องให้ยุติการอนุมัติการทำเหมืองแร่ในพื้นที่****
ทั้งนี้นายจุมพล เพริศพรายงาม ตัวแทนชุมชนบ้านหัวลา กล่าวว่า “ชุมชนแม่ลาน้อยยืนหยัดต่อสู้มาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อปกป้องผืนดินและแม่น้ำของเรา การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้แสดงพลังของชุมชน และยืนยันว่าพวกเราจะไม่ยอมให้เหมืองแร่ทำลายบ้านเกิดของเรา” ขบวนการแม่ลาน้อยเป็นหนึ่งในขบวนการชุมชนเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่แข็งแกร่งของประเทศไทย โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเครือข่ายภาคประชาสังคม องค์กรสิ่งแวดล้อม นักกฎหมาย และชุมชนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่และโครงการพัฒนาอื่น ๆ งานครบรอบ 3 ปีในครั้งนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญในการสานต่อการเคลื่อนไหวและผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายต่อไป****


ชนานันท์ เง่าสุวรรณ์// ผู้สื่อข่าวจังหวัดแม่ฮ่องสอน