ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

สว.ปริญญา”ลงพื้นที่ตรวจลานรับซื้อน้ำมันเถื่อนหลังถูกเจ้าหน้าที่ บุกเข้าทลาย ยืนยันเปิดหน้าสู้ผู้มีอิทธิพล คาดอยู่ในสภาเดียวกัน

สว.ปริญญา”ลงพื้นที่ตรวจลานรับซื้อน้ำมันเถื่อนหลังถูกเจ้าหน้าที่ บุกเข้าทลาย ยืนยันเปิดหน้าสู้ผู้มีอิทธิพล คาดอยู่ในสภาเดียวกัน

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 3 เม.ย.68 พล.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฏิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลาส่งการให้ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.เอกอิชณน์กานต์ กาญจนเนตยานนท์ รักษาการ ผกก.สภา.คลองหอยโข่ง นายกษิดิศ ธนะโชติ์เดโช นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ นายธีระเดช ตรีรัตนานุกุล เจ้าพนักงานสรรพสามิตชำนาญงาน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 9 สนง.สรรพสามิตพื้นที่สงขลา กรมพลังงานจังหวัดสงขลา กรมศุลกากรภาค4 ศุลกากรจังหวัดสงขลา สืบจังหวัดสงขลา สืบภาค9 รวมบูรณาการเข้าตรวจสอบ รถ ทุกคันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยมีรถทั้งหมดประมาณ 16คัน มีรถบรรทุกเทรลเลอร์ จำนวน 4 คัน รถ10ล้อ 3 คัน รถกระบะตู้ทึบ 4 คัน รถกระบะ5 คัน
ในส่วน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้า ตรวจสอบลายนิ้วมือ และเก็บ DNA จากวัตถุพยาน ภายในรถทุกคัน รวมทั้งบริเวณ มือจับเปิดปิดประตูรถ ขณะที่เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดสงขลาและสรรพสามิตจังหวัดสงขลา ได้เข้าเก็บตัวอย่างน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ที่พบอยู่บริเวณ ลานขายน้ำมันเถื่อน เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพและที่มาของน้ำมัน ก่อนนำผลการตรวจสอบไปประกอบสำนวนการดำเนินคดีได้ว่าน้ำมันที่พบในจุดดังกล่าว เป็นน้ำมันหนีภาษีหรือไม่

ขณะที่จากการตรวจสอบรถกระบะตู้ทึบ ที่ภายในมีการติดตั้ง ถังขนาดใหญ่ บรรจุน้ำมันได้ประมาณ 3,000 ลิตร ก็พบว่ามีการดัดแปลงสภาพรถโดยช่วงล่าง มีการติดตั้ง เสริมแหนบเพิ่มเติมเพื่อให้รับน้ำหนักได้ ซึ่งรถกระบะตู้ทึบ จะเป็นรถที่ลำเลียงน้ำมันหนีภาษีไปส่งในพื้นที่ตอนกลางของภาคใต้ ส่วนลดเทรลเลอร์และรถสิบล้อเป็นรถที่เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมัน
นอกจากนี้บริเวณลานขายน้ำมันเถื่อนที่มีการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ภายในเต็นท์ก็พบถังบรรจุน้ำมันขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 12 ใบ และถังกลมบรรจุน้ำมันขนาดถังละ 200 ลิตรจำนวน 18 ใบ มีถังดำใส่น้ำมันขนาดใหญ่ 1ใบ บรรจุได้ จำนวน 20,000 ลิตร อยู่ในเต็นท์ มีน้ำมันเบนชินอยู่ ประมาณ 9,000ลิตร และปั๊มที่ใช้สูบน้ำมันอีก 10 ตัว เจ้าหน้าที่จึงยึด ของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ณจุดนี้คาดว่ามีน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลไม่ต่ำกว่า 20,000 ลิตร


ขณะที่อีกจุดห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ตรวจสอบ พบถังที่ใช้บรรจุน้ำมัน ขนาด 1,000 ลิตรและ 200 ลิตรมากกว่า 10 ใบ และจุดนี้ยังมีการให้บริการเติมน้ำมันจากหัวจ่ายน้ำมันจำนวน 1 หัวจ่ายเหมือนกับปั๊มน้ำมันทั่วไปด้วย แต่ที่น่าสังเกต พบรถ ขนน้ำมัน ที่สามารถบรรจุน้ำมันได้จำนวน 18,000 ลิตรและเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งจอดอยู่ 1 คันโดยรถคันนี้ หมวดทะเบียนป้ายสุราษฎร์ธานี
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในถังเก็บน้ำมันแล้วพบว่ามีน้ำมันมากกว่า 14,000 ลิตร โดยรถคันนี้ได้ขับเข้ามารับน้ำมันจากจุดขายดังกล่าว แต่ยังไม่ทันได้ขับออกไป ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเพื่อขยายผลว่ารถคันนี้จะนำน้ำมันไปส่งที่ใดส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และ รวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะปริมาณน้ำมันดีเซลและเบนซินที่ตรวจยึดได้ ว่ามี จำนวนกี่ลิตรรวมทั้งรอผลการตรวจสอบจากพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นน้ำมันที่มีการนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีหรือเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินคดีความผิด พระราชบัญญัติศุลกากรและพระราชบัญญัติสรรพสามิต ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00น.วันนี้ นาย ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบลานขายน้ำมันหนีภาษีหรือน้ำมันเถื่อนในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา หลังจากช่วงค่ำเมื่อวานนี้ และได้พูดคุยกับ ผู้ต้องหา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาเมื่อช่วงคำของวานนี้


ด้าย นาย ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่าก่อนที่ตนจะส่งเจ้าหน้าที่และคณะทำงานเข้าพื้นที่มาตรวจสอบนั้นก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่าจุดนี้มีการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนกันอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งถือว่าอันตรายอย่างมากเนื่องจากน้ำมันเป็นวัตถุไวไฟและหากมีการกระทำที่ผิดพลาดหรือทำให้เกิดประกายไฟก็จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ เนื่องจากมีการใช้เครื่องปั๊มสูบน้ำมัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็ยืนยันได้ว่าเป็นน้ำมันหนีภาษีที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากมีราคาถูกกว่าประเทศไทย แต่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมาก โดยเฉพาะจุดแรกที่คาดว่าจะมีน้ำมัน ประมาณ 20,000 ลิตร แต่จากข้อมูลคาดว่ามีน้ำมันมากกว่า 50,000 ลิตร จะทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 1,500,000 บาท

ขึ้นจุดขายน้ำมันเถื่อนที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่แน่นอน และอาจจะอยู่ในสภาเดียวกับตนก็ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครที่เข้ามาขอเคลียร์กับตนซึ่งตนก็ต้องตรวจสอบเนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน


พี่เสือ นักข่าว สงขลา