ปทุมธานีชาวสวนหนองเสือวอนผู้ว่าฯประกาศภัยแล้งหลังแชร์จ่ายค่าน้ำมันใกล้หมดตัว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 มีนาคม 2564 นายสุริยา ธรรมธารา ส.อบจ.เขต 1 อำเภอหนองเสือ ลงพื้นที่รับทราบปัญหาหลังจากชาวเกษตรกรตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ได้ร้องเรียนประสบภัยแล้งต้องเรี่ยไร่เงินชาวไร่ชาวสวน เพื่อซื้อน้ำมันสูบน้ำใช้ในแปลงเกษตร มานานกว่า 2 เดือนแล้ว พร้อมกับ ภัยแล้งส่งผลกระทบทำให้ถนนเลียบคลอง 33 หมู่ 7 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กที่ อบจ.ปทุมธานีสร้างไว้ทรุดเสียหาย หวั่นชาวบ้านที่ใช้เส้นทางจะเกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายได้หากไม่แก้ไข
จากการสอบถาม นายสำราญ อาสนะ กำนันตำบลศาลาครุ กล่าวว่า กว่าสองเดือนที่ชาวบ้านได้ประสบปัญหาภัยแล้งมา กำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้รวมแรงร่วมใจกันตั้งเขื่อน รวมถึงหาเครื่องสูบน้ำจากมาตั้งเพื่อสูบน้ำ โดยได้เรี่ยไรค่าน้ำมันจากชาวบ้านไร่ละ 100 บาท ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่ห่างไกลเป็นเขตชายแดนติดกับจังหวัดสระบุรีได้มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง สูบน้ำมากว่าสองเดือนชาวบ้านเดือดร้องอย่างหนัก ต้องเรี่ยไรนำเงินมาจ้างเครื่องสูบน้ำและซื้อน้ำมันจนแทบจะหมดตัวกันอยู่แล้วอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือโดยการหางบประมาณมาช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลัง ประสพปัญหาภัยแล้งอย่างหนักอยู่ในขนาดนี้ พืชเกษตร ที่กำลังได้รับความเสียหายหลายพันไร่ประชาชนอีกกว่าสองพันคนก็ได้รับผลกระทบ ต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
นอกจากนี้ปัญหาภัยแล้งยังส่งผลกระทบกับถนนคอนกรีตเสริมเหล็กที่ อบจ.ปทุมธานีได้สร้างไว้ เมื่อน้ำแห้งคลองทำให้ดินใต้ผิวถนนทรุดเป็นโพล่งใหญ่หลายจุด เมื่อรถยนต์ใช้ถนนจึงทำให้พื้นถนนคอนกรีตทรุดเสียหายหลายจุดหวั่นจะเกิด อุบัติเหตุอันตรายถึงกับเสียชีวิต ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เอากรายและเชือกมากั้นเพื่อให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางได้สังเกตป้องกันอุบัติเหตุไว้ก่อนแล้ว
ด้าน นายสุริยา ธรรมธารา ส.อบจ.เขต 1 อำเภอหนองเสือ กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากชาวบ้านเรื่องภัยแล้งจึงรายงานไปที่ พล.ต.ท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีท่าจึงมอบหมายให้เป็นตัวแทน เพื่อมาพบชาวบ้านตำบลศาลาครุ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหาภัยแล้งก็ได้รายงานท่านไปเบื้องต้น ซึ่งท่านมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวหนองเสือจากภัยแล้ง และไม่ได้ทอดทิ้งชาวเกษตรกรที่ปะสบภัยแล้ง
แต่เนื่องจากขณะนี้จังหวัดปทุมธานีต้องเผชิญกับภัยโรคระบาดโควิด-19 จึงได้ควบคุมดูแลสถานการณ์ตั้งศูนย์ตรวจคัดกรองโควิด-19เชิงรุก เมื่อทราบว่าชาวบ้านเกษตรต้องเรี่ยไร่เงินเพื่อซื้อน้ำมันเพื่อสูบน้ำเป็นระยะเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว เมื่อมารับทราบปัญหาชาวบ้านแล้วจากการมาดูพื้นที่พบว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงและเดือดร้อนมานานแล้วซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่างรอผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีประกาศภัยแล้ง เพราะเนื่องจากปัจจุบันไม่มีงบประมาณที่จะนำมาช่วยได้อย่างฉุกเฉินได้หาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมประกาศภัยแล้งได้เมื่อไร ทุกฝ่ายจะสามารถลงมาช่วยได้ทันที
ส่วน นายรุ่งชัย ทรัพย์เจริญกุล ชาวเกษตรกรสวนกล้วยหอมและสวนมะพร้าว 30 ไร่ กล่าวว่า หากผู้ว่าฯ ประกาศภัยแล้ง ชาวบ้านก็หวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของค่าน้ำมันที่ใช้กับเครื่องสูบน้ำเพื่อการเกษตร ปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดี ผลผลิตที่ออกมาก็ขายไม่ได้ราคา ยิ่งขาดปัจจัยเรื่องน้ำก็ยิ่งส่งผลกระทบหนัก อย่างไรก็ตามอยากให้ทางจังหวัดได้เห็นใจชาวบ้านด้วย.
