อ่างทอง สีสันพระก็กันไม่อยู่เกษตรกรเลี้ยงโคกระบือเผยขนาดดูแลดียังติดโรคจนได้ ด้านเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งฉีดและพ่นยาตัดตอนหลังพบวัวป่วยเป็นโรคลัมปีสกิน พร้อมให้ความรู้แก่เกษตรกรและมอบน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเป็นการตัดตอนลดการแพร่ระบาด
วันที่ 27 พ.ค. 64 ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งออกตระเวนฉีดพ่นยาและฉีดยาฆ่าเชื้อให้กับวัวและควาย หลังพบว่ามีวัว ป่วยเป็นโรคลัมปีสกิน เพื่อเป็นการตัดตอนป้องกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไม่ให้ขยายวงกว้าง โดยทาง นายสัตวแพทย์ธิติ มาดหมาย ปศุสัตว์อำเภอวิเศษชัยชาญ หัวหน้าสถานพยาบาลสัตว์อำเภอวิเศษชัยชาญ พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำทีมลงพื้นที่ที่ได้รับแจ้งจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ หลังพบว่าป่วยเป็นโรคลัมปีสกิน ซึ่งเริ่มพบใน 2 ตำบล ของ อำเภอวิเศษชัยชาญ แต่การแพร่ระบาดยังไม่มาก เป็นเพียงอาการเริ่มต้น
ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งใช้มาตรการเชิงรุก โดยลงพื้นที่ตามคอกต่าง ๆ ของเกษตรกร พร้อมทำการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เกษตรกร ถึงวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง ในการป้องกันไม่ให้เกิดโรค หรือหากเกิดก็จะให้ความรู้ในการรักษาและดูแล ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรค อีกทั้งเร่งนำยาฉีดพ่นและฉีดยาฆ่าเชื้อกำจัดปรสิต นอกจากนี้ยังมอบยาฆ่าเชื้อให้กับเกษตรกรไว้ใช้เบื้องต้น โดย จังหวัดอ่างทอง ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา พบว่ามีวัวที่ป่วยเป็นโรคประมาณ 50 ตัว กระจายอยู่ในคอกต่าง ๆ สาเหตุที่พบคาดว่าน่าจะมาจากการมีการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ ประกอบกับมีแมลงดูดเลือด เหลือบ เห็บ แมลงวัน และยุง เป็นพาหะของโรค และในขณะนี้ ทางจังหวัด จึงมีการเฝ้าระวังสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเด็ดขาด
ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงโค นาย รุ่งโรจน์ ประดับมุข อายุ 32 ปี เจ้าของ คอกวัว เลขที่ 19/1 หมู่ที่ 10 ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนเองประกอบอาชีพ เลี้ยงวัวมากว่า 11 ปี ที่คอกเลี้ยงวัวเป็นวัวลูกผสมบรามัน มีอยู่ประมาณ 45 ตัว และเมื่อช่วง 2 – 3วัน ที่ผ่านมา พบว่ามีวัวเพศเมีย อายุประมาณ 3 ปี ป่วยมีอาการคล้ายโรคลัมปีสกิน โดยมีลักษณะมีตุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร ที่ผิวหนัง จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าปศุสัตว์อำเภอ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบ พบว่าป่วยเป็นโรคลัมปีสกิน จึงได้ใช้มาตรการตัดตอนเร่งนำยามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อกำจัดปรสิต และให้ความรู้ในการดูแลและรักษา
ส่วนทางด้าน นาย จักรกฤษ ปฏิมาประกร อายุ 46 ปี เกษตรกรเลี้ยงโคและกระบือ คอกวัวควายปู่ศักดิ์ ที่ใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางมาไว้หน้าคอก เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองเลี้ยงโคกระบือมากว่า 20 ปี ซึ่งเป็นพันธุ์ชาร์โรเล่ล์ จำนวน 20 ตัว และควายไทย จำนวน 9 ตัว หลังจากพบโรคลัมปีสกิน ในวัวของตนเอง จำนวน 1 ตัว ก็ได้ทำการคัดแยกวัวที่ติดโรคลัมปีสกินและวัวที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งตนเองได้ประสบการณ์เรียนรู้มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ที่จะต้องคัดแยกกลุ่มปกติและกลุ่มผู้ติดเชื้อออกจากกัน โดยนำออกมาเลี้ยงดูแลบริเวณคอกด้านนอก เพื่อความปลอดภัยไม่ให้ติดโรค และบ่นเป็นการระบายความในใจว่า ขนาดตนเองดูแลเลี้ยงโคและกระบือของตัวเองอย่างดี แถมนิมนต์พระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้บนหิ้งพระที่อยู่หน้าคอกวัวถึง 3 องค์ ซึ่งมีพระมหาพุทธพิมพ์ หลวงพ่อโตวัดไชโย เป็นพระประธาน เพื่อให้มาช่วยปกปักษ์รักษา อาราธนาให้วัวปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกในการคลอด และไม่ให้เกิดสิ่งไม่ดีกับโคและกระบือที่เลี้ยงไว้ แถมยังมีเครื่องรางเป็นตะข้องและลอบดักปลาแขวนไว้ ยังไม่วายที่ทำให้โคและกระบือของตนเองติดโรคในที่สุด แต่ยังดีที่สังเกตและช่วยเหลือรักษาได้ทันก่อนที่จะระบาดไปทั้งคอก พร้อมทั้งแจ้งทางปศุสัตว์อำเภอให้มาทำการฉีดยาและพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อเป็นการตัดตอนและรักษาให้หายขาดไม่แพร่ระบาดในพื้นที่ต่อไป
กนกศักดิ์ / อ่างทอง
