COVID-19ข่าวพาดหัวป้องกัน COVID-19

สระแก้ว – จับกัมพูชาลักลอบเข้าไทย 21 คน ผู้ว่าฯสั่งเข้มชายแดน

(สระแก้ว) – จับกัมพูชาลักลอบเข้าไทย 21 คน ผู้ว่าฯสั่งเข้มชายแดน

https://youtu.be/NQQqbwueXPc

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่สกัดจับชาวกัมพูชา 21 คน ลักลอบข้ามแดนเข้าไทยพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งเข้มชายแดน


“ผู้สื่อข่าวรายงาน ตามมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับ ทางจังหวัดสระแก้วได้มีคำสั่งให้มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในพื้นที่หมู่บ้านชายแดนนั้น พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังชายแดนกำกับดูแลตามข้อสั่งการอย่างเข้มงวด กระทั่งเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (5 มิ.ย.64) เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้รับแจ้งว่า เนื่องจากการจับกุมแรงงานต่างด้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา คาดว่าจะมีแรงงานที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ เพราะแรงงานที่ถูกจับกุมได้ให้การว่า มีแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางมาอีกกลุ่มหนึ่ง จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา ทำการซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่เพ่งเล็งร่วมกับ กองร้อย ฉก.ตชด.3 ชุดควบคุมกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวต่อเนื่อง


“กระทั่ง ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคล คาดว่า เป็นแรงงานต่างด้าวจึงได้แสดงตัว เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 21 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 14 คน ลักลอบหลบหนีข้ามแดน ที่บริเวณพิกัด 48 PTA 599429 บ้านเขาลูกช้าง หมู่ 14 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งจาการสอบถาม ชาวกัมพูชาให้การว่า เดินทางมาจากฝั่งกัมพูชาตามเส้นทางธรรมชาติหลบหนีเจ้าหน้าที่มาทางช่องทาง ระหว่างจุดตรวจ ต.21-ต.22 โดยมีผู้นำทางชาวกัมพูชาพามาส่งยังฝั่งไทย แต่พอรู้ว่าอีกกลุ่มถูกจับกุม ผู้นำทางชาวกัมพูชาได้พาหลบหนีทิ้งกลุ่มแรงงานไว้ จึงไม่รู้จะไปอย่างไรต่อ จึงหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจพบ ซึ่งแรงงานกลุ่มดังกล่าวต้องการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิ ผลการตรวจอยู่ในเกณฑ์ปกติทั้ง 21 คน พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หลังจากนั้น ได้ทำบันทึกจับกุมและส่งผลักดันออกนอกประเทศทางช่องอนุโลม จุดตรวจ ส.38 บ้านโนนหมากมุ่น ผ่านช่องทางโอบายเจือน ประเทศกัมพูชา ต่อไป


” ด้านนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกัน สกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายและคุมเข้มมาตรการคัดกรองโรคในพื้นที่ชายแดน ด้านจังหวัดสระแก้ว ภายหลังได้ตั้งคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบขนยาเสพติดสินค้าผิดกฎหมาย การควบคุมมาตรการป้องกันโรคติดต่อ เน้นงานด้านการข่าว เพื่อปิดช่องว่างอาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการสืบค้น จับกุมขยายผลเส้นทางโครงข่ายกระบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งเป็นการบูรณาการกันทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนภาคประชาสังคม


“ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการ หากพบมีการปล่อยปละละเลยหรือบกพร่องต่อหน้าที่ จะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้รับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเข้มงวดเด็ดขาด โดยการดำเนินการที่ผ่านมา ในระดับพื้นที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีคณะปฏิบัติงานระดับพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ได้ตั้งด่านในพื้นที่ทั้ง 60 หมู่บ้านตลอดแนวชายแดน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด มอบให้กองกำลังบูรพาและหน่วยขึ้นตรงผู้รับผิดชอบ จำนวนทั้งสิ้น 18 ด่านตรวจ 135 จุดตรวจ ตลอดระยะทาง 165 กิโลเมตร พื้นที่หมู่บ้านชายแดน 60 จุดตรวจ มอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแล ส่วนพื้นที่ตอนในมีตำรวจภูธรและหน่วยเคลื่อนที่เร็วทหาร ตชด. มีการจัดตั้งจุดตรวจสถานีตำรวจภูธร 16 แห่ง สามารถปรับแก้ไขเพิ่มเติมได้ตามสถานการณ์ ส่งผลให้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่อำเภอตาพระยา จำนวน 12 ราย อำเภอโคกสูง จำนวน 35 ราย รวมทั้งสิ้น 47 ราย…..นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว