ข้าราชการไทยข่าวทั่วไปข่าวประชาสัมพันธ์ข่าวพาดหัว

ศรชล.ขอความร่วมมือชาวประมง งดจับปลาฉลามหูดำ แม้ไม่อยู่ในบัญชีสัตว์สงวนหรือสัตว์คุ้มครอง แต่สำคัญต่อระบบนิเวศ

ศรชล.ขอความร่วมมือชาวประมง งดจับปลาฉลามหูดำ แม้ไม่อยู่ในบัญชีสัตว์สงวนหรือสัตว์คุ้มครอง แต่สำคัญต่อระบบนิเวศ


เมื่อวันนี้ (19 มิถุนายน 2564) เวลา 18.00 น. พลเรือตรี ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าตามที่ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)ได้สั่งการให้ พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ศรชล. บูรณาการเพื่อดำเนินการตามมาตรการ แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน นั้น ล่าสุด โฆษก ศรชล. แจ้งว่า พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ผอ.ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ควบคุมท่าเรือ จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต ตรวจสอบร่วมกับประมงจังหวัดภูเก็ต ด่านตรวจประมงภูเก็ต และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภูเก็ต


ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ปลาฉลามหูดำดังกล่าว มาจากการทำประมงเบ็ดราวหน้าดินของเรือประมงพื้นบ้าน (ต่ำกว่า 10 ตันกรอส) ซึ่งเป้าหมายหลักของการทำการประมงคือปลาเก๋า แต่เนื่องจากช่วงเดือน มกราคม ถึง เดือนมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่ฉลามหูดำเคลื่อนที่เข้ามาบริเวณที่ชาวประมงวางเบ็ดราว จึงทำให้ติดปลาฉลามหูดำเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ฉลามหูดำไม่ได้บรรจุอยู่ในบัญชีสัตว์สงวนหรือสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติ และการทำการประมงไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือพื้นที่คุ้มครองทางทะเล และเมื่อไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง จึงสามารถจำหน่ายได้ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะได้สำรวจและผลักดันสัตว์ทะเลชนิดสำคัญ รวมถึงฉลามหูดำ เพื่อบรรจุในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ต่อไป
โฆษก ศรชล. ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากระทำดังกล่าวแม้จะไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากฉลามหูดำไม่อยู่ในบัญชีสัตว์สงวนหรือสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติ แต่ปลาฉลามนั้นสำคัญต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารทางทะเล และยังสำคัญต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ที่กำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยว ( Phuket Sandbox ) จึงต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการและประสานการปฏิบัติ โดยลงพื้นที่สำรวจและเร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจขอความร่วมมือชาวประมง และผู้ประกอบกิจการประมง ให้ช่วยกันลดหรือห้ามจับปลาฉลาม เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับจังหวัดภูเก็ต รวมถึงสร้างเครือข่ายในพื้นที่อย่างจริงจังและทั่วถึง อีกทั้งเร่งหาแนวทางประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับชาวประมง ผู้ประกอบกิจการประมง ประซาชน และนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศและจังหวัด ที่กำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่อไป
ภาพ/ข่าว สนง.โฆษกกองทัพเรือ
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0908535645