ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเตือนดำเนินคดีเฉียบขาดผู้นำพาแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดเข้าจันทบุรี ขณะที่ประเทศกัมพูชา ล็อคดาว ไม่รับคนกัมพูชากลับเข้าประเทศ
บ่ายวันนี้ ( 3 ส.ค.64 ) ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้เรียกประชุมร่วมหน่วยงานความมั่นคงชายแดน ทหาร ตำรวจ ตม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาคเอกชน หารือแนวทางการแก้ปัญหา หลัง รัฐบาลกัมพูชาสั่งล็อคดาวประเทศห้ามคนกัมพูชาข้ามจังหวัด และ ไม่รับแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชากลับประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด – 19 ส่งผลให้แรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยแล้วหลบหนีออกจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตกค้างที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีหลายราย ซึ่งการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวข้ามจังหวัดถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรค ผู้นำพามีความผิดคดีอาญา ดังนั้น จังหวัดจันทบุรีจึงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ที่รู้เห็นเป็นใจ หรือนำพาแรงงานต่างด้าวข้ามจังหวัดมาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีหากพบเจอจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทันที อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้ามาใน
จังหวัดจันทบุรีอย่างผิดกฎหมายซึ่งตอนนี้มีประมาณ 100 กว่าคนแล้ว ตามหลักมนุษยธรรมทางจังหวัดได้เตรียมพื้นที่กักกัน พักคอย หากทางกัมพูชาคลายล็อคดาวก็จะผลักดันกลับประเทศทันที โดยเบื้องต้นได้เตรียมสถานที่ไว้สำหรับกักกัน พักคอย แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีออกจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ผิดกฎหมายไว้ 3 แห่ง คือ บริเวณสวนสุขภาพลานจอดรถของเอกชนตลาดบ้านผักกาด / สำนักสงฆ์สมใจนึก บ้านซับตาเมา และ ที่วัดโพธิ์ศรี ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว หากสถานการณ์คลี่คลาย กัมพูชาคลายล็อคดาว ก็จะผลักดันแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีออกมากลับประเทศ ทันที
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก