นนทบุรี ทนายดังพาเซียนพระเข้าแจ้งความหลังถูกทหารยศจ่าตุ๋นเงินซื้อ-ขายพระเครื่อง สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ส.ค.64 ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายอนันตวัฒน์ หรืออ๋อง นิติภัทรธนากฤต อายุ 27 ปี เซียนพระเครื่อง พร้อมด้วย น.ส.สุกัญญา ใจบุญ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ น.ส.มณฑา จันทร์งาม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/164 หมู่6 ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศุภลักษณ์พรมวงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง กรณีถูกนายทหารยศจ่าสิบตรี สังกัดกองทัพบก ประจำการอยู่ที่ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ หลอกขายพระเครื่อง ทำให้ได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
นายอนันตวัฒน์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพซื้อขายพระเครื่องของหลวงพ่อพัฒน์ เป็นธุรกิจแบบซื้อมาขายไป จนกระทั่งเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เห็นรูปในเฟสบุ๊คของทหารรายหนึ่ง ยศ จ่าสิบตรี ลงรูปถ่ายพร้อมข้อความว่ามีพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อพัฒน์เป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ติดต่อไปเพื่อขอเช่าเหรียญหลวงพ่อพัฒน์ รุ่นหน้ายักษ์ศชษ์ เหรียญรุ่นรวยเลื่อนบารมี เหรียญรุ่นรวยพันล้าน2 และเหรียญรุ่นเสือคาบดาบ4 รวมเป็นเงินทั้งหมด 1,872,700 บาทโดยมีกำหนดส่งของให้เดือน มี.ค.64 แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยได้รับพระแม้แต่องค์เดียว เมื่อสอบถามไปที่ทหารคนดังกล่าวก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และอ้างว่าติดราชการยังไม่สะดวกส่งของให้ ตนจึงเดินทางไปพบกับทหารคนดังกล่าวที่ จ.ตาก เพื่อสอบถามว่ามีพระเครื่องจริงหรือไม่ โดยทางทหารคนดังกล่าวยอมรับว่าไม่มีพระเครื่องที่ได้ตกลงทำการซื้อขายกันไว้ ตนจึงขอเงินคืนแต่ทางทหารคนนี้บอกว่าเงินไม่มีแล้วเพราะนำไปเช่าพระรุ่นอื่นหมดแล้วและได้นำเงินบางส่วนไปเล่นการพนันหมดแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เงินทั้งหมดที่ตนจ่ายไป เป็นเงินเก็บของครอบครัวซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ นอกจากนี้เงินส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บจากลูกค้ามาก่อน ซึ่งตนก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอาไปจ่ายคืนให้กับลูกค้าที่มัดจำเอาไว้อีก ตอนนี้เครียดมาก จึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาร้องเรียนกับทางทนายรณณรงค์เพื่อให้ช่วยเหลือในทางคดี เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเข้ามาเเจ้งความเกี่ยวกับเรื่องการฉ้อโกง ซึ่งคู่กรณีเป็นทหารยศจ่าสิบตรี ได้หลอกขายพระเครื่อง โดยใช้เฟสบุ๊คลงรูปโปรไฟล์ใส่เครื่องแบบทหาร
สร้างความเชื่อถือทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งมีผู้เสียหายถูกหลอกลักษณะเดียวกันหลายรายก่อนหน้านี้ทางผู้เสียหายได้เดินทางไปพบจ่าทหารคนดังกล่าวและได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาแล้ว แต่เนื่องจากพ่อของจ่าทหารคนนี้ก็เป็นทหารเช่นกัน และเป็นเพื่อนกับผู้บังคับบัญชาของจ่าทหารคนนี้ เรื่องจึงได้เงียบ ขณะที่ผู้เสียหายมีหลักฐานการโอนเงินและมีคลิปการสนทนาทุกอย่าง โดยจ่าทหารคนนี้ยอมรับว่านำเงินไปเล่นการพนันจนหมด หลังจากนี้จะให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องที่กองทัพบกเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด