ชาวบ้านบางบาลระดมทุนช่วยกันเองสร้างศูนย์พักคอยรองรับผู้ป่วยโควิดในชุมชน 50 เตียง โดยไม่ต้องรอพึ่งงบประมาณจากรัฐ
วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่ โรงเรียนวัดพระขาว (ประชานุเคราะห์) หมู่ที่ 3 ต. พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมยศ เกษสุวรรณ นายอำเภอบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดศูนย์พักคอยชุมชนพระขาว ประชาร่วมใจ จำนวน 50 เตียง พร้อมด้วยนายวุฒิภัทร วงศ์นิ่ม ปลัดอำเภอบางบาล (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) โดยมีนายวรินทร ครุธามาศ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนภาคประชาชน และ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม.ให้การต้อนรับ
นายสมยศ เกษสุวรรณ นายอำเภอบางบาล กล่าวว่า ศูนย์พักคอยชุมชนพระขาว ประชาร่วมใจ แห่งนี้เป็นความร่วมมือของพี่น้องประชาชนชาวตำบลพระขาว ที่ระดมทุนคนละไม้ละมือ ส่วนสถานที่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้อำนวยการโรงเรียนพระขาว (ประชานุเคราะห์) ให้ใช้โรงยิมสร้างเป็นศูนย์พักคอย สำหรับสถานที่แห่งนี้ ไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่ Atk มีผลเป็นบวก ยังไม่ได้เข้าสู่การรักษาของโรงพยาบาล รอการเข้ารับการตรวจจากโรงพยาบาล เสร็จแล้วถ้าโรงพยาบาลแยกกลุ่มเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว สีเหลือง สีแดง แล้วจะจัดให้เข้าไปอยู่ในศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนาม สำหรับในอำเภอบางบาล มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 700 คนเศษ ก็ต้องขอขอบคุณผู้นำชุมชนที่ร่วมไม้ร่วมมือสร้างศูนย์พักคอยแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อรองรอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ด้านนายวรินทร ครุธามาศ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนภาคประชาชนผู้คิดริเริ่มสร้างศูนย์พักคอยชุมชนพระขาว ประชาร่วมใจ แห่งนี้ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ชาวบ้านภาคประชาชนในชุมชนให้ความตื่นตัวเป็นอย่างมากจึงได้ปรึกษากับ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพระขาว ว่าจะสร้างศูนย์พักคอย แต่ยังติดในเรื่องของงบประมาณ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตนจึงรับเป็นผู้ดำเนินการระดมทุนละได้รับบริจาคจากพี่น้องประชาชน ในวันแรก 25,000 บาท (สองหมื่นห้าพันบาท) จนกระทั่ง ณ ปัจจุบันได้เงินบริจาคมา 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียง ที่นอน หมอน ผ้าปูที่นอน มุ้ง พัดลม และอุปกรณ์ต่างๆ ก็ได้รับบริจาคผู้มีพระคุณทั้งหลาย รวมถึงลูกศิษย์หลวงปู่ทิม สาเหตุที่ชาวบ้านต้องออกมาระดมทุนทำกันเองเพราะสถานการณ์ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะมามัวรอแต่หน่วยงานภาครัฐเพียงอย่าเดียวคงไม่ได้ ปัญหาทุกวันนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อบางคนยังใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัว ไม่สามารถที่จะแยกตัว และไม่มีสถานที่รองรับ ขบวนการพาไปตรวจหาเชื้อ ตรวจเลือด ตรวจปอด ยังต้องใช้เวลานานอยู่ กว่าจะได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาล เพราะมีผู้ป่วยที่รอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีอยู่เป็นจำนวนมาก หากปล่อยให้ผู้ติดเชื้ออยู่กับบ้านกับครอบครัวที่ไม่มีพื้นที่มากพอ และขาดการดูแลที่ถูกต้อง ก็อาจจะทำให้ผู้อื่นโดยเฉพาะคนในครอบครัวติดเชื้อไปด้วย เราจึงเล็งเห็นว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรทำ จึงได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องภาคประชาชนจำนวนมากในการบริจาคร่วมสมทบทุนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชมชน โดยไม่ต่อรองบประมาณจากภาครัฐ
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าวภาคกลาง
