ข่าวพาดหัวจับกุมลักลอบเข้าประเทศ

กาญจนบุรี – ฝนจะตกแดดจะออกก็ไม่ท้อ ลุยจับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ไม่เคยหยุดจับทุกวันก็มาทุกวันไม่มีวันหมด

กาญจนบุรี ฝนจะตกแดดจะออกก็ไม่ท้อ ลุยจับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ไม่เคยหยุดจับทุกวันก็มาทุกวันไม่มีวันหมด


ตามที่พลตรีบรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 / ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ และนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่กองกำลังสุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพร้อมด้วยหน่วยงานราชการทุกหน่วย เฝ้าระวังตามเขตแนวชายแดนที่มีอานาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านคอยเฝ้าระวังมิให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามายังอนาเขตประเทศไทยอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ติดมากับบุคคลต่างด้าวเข้ามาระบาดติดต่อคนไทยตามแนวชายแดน


มาวันนี้ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าได้พบบุคคลต่างด้าวหลบซ่อนอยู่ในไร่อ้อยชายเขาหลังชุมชนหมู่บ้านสุพรรณ หมู่ที่ 2 บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก จึงได้ประสาน นายพนมกร คล้ายเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านหนองบ้านเก่าจึงพร้อมด้วยนายเฉลิมชัยแบนดอนไพร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านทุ่งศาลาและเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงอยู่ที่ด่านช่องเขาหนีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารชุด มว.ลว.ที่4 หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตชด.136 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรป้อมเขาหนีบ ตำบลบ้านเก่า ร่วมกันเข้าตรวจสอบ

ภายในไร่อ้อยดังกล่าว เมื่อบุคคลต่างด้าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าจึงได้ทำการวิ่งไล่จับจนสามารถทำการควบคุมตัวได้ 9 คนเป็นชาย 5 หญิง 4 และได้ทำการตรวจวัดอุณภูมิ บุคคลต่างด้าวทั้ง 9 คนไม่พบความผิดปกติ จากการสอบถาม น.ส.มะขิ่น อายุ 24 ปีสัญชาติเมียนมา ว่าพวกตนได้พากันเดินทางมาจากเมืองเมาะละแหม่ง และรํฐยะไข่ มาทั้งหมด 22 คนโดยจ่ายค่าหัวให้แก่นายหน้าที่ไปแล้วโดยมีค่าหัวตามระยะทางใกล้ไกล อย่างที่จะไปวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคนละ 16,000 บาทและส่วนที่ไปมหาชัย รังสิต และบางใหญ่ จะเสียค่าหัวคนละ 18,000 บาท ทั้งหมดได้ทำการจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าฝั่งเมียนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อข้ามมาประเทศไทยแล้วมาถูกจับกุมได้เสียก่อน


จากการสอบถามผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองในครั้งนี้ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกตนเดินทางมาในครั้งนี้ทั้งหมด 22 คน โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ถูกจับครั้งมีมี 12 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบจึงได้วิ่งหลบหนีขึ้นเขาไปได้ 3 คน พวกตนหนีไม่ไหวจึงได้ถูกจับจำนวน 9 คน หนีไปได้ 3 คน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นหนีขึ้นเขาไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามมาดำเนินคดีต่อไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำบุคคลต่างด้าวทั้ง 9 คนไปผลักดันกลับภูมิลำเนาทางช่องทางธรรมชาติพร้อมทั้งแนะนำให้ทั้งหมดไปทำหนังสือขออนุญาตเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ในช่วงระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนได้ทำการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยได้ทุกวันรวมแล้วกว่าร้อยคนที่ต้องทำการผลักดันกลับภูมิลำเนา
เกษร เสมจันทร์ รายงานจากกาญจนบุรี