ข่าวพาดหัวฉ้อโกงประชาชนร้องเรียน

สระแก้ว – ลุงไม่ใช่วิศวะการบิน

(สระแก้ว) – ลุงไม่ใช่วิศวะการบิน” DSI รับลูกเตรียมรับเป็นคดีพิเศษ แจ้งความเพิ่มเกือบ 20 ราย ถูกหลอกกู้เงินแอพกสิกรไทยไม่ได้เงิน

ชมคลิป


สระแก้ว – เจ้าหน้าที่หน่วยงานกระทรวงยุติธรรม ประสานดีเอสไอรับลูกเตรียมรับเป็นคดีพิเศษ ชาวบ้านแจ้งความเพิ่มอีกเกือบ 20 คน ถูกหลอกกู้เงินแอพกสิกรไทยไม่ได้เงิน ผู้ใหญ่บ้านถูกข่มขู่ เสือกอะไร แฉปั้นลุงวัย 76 ปี เป็นวิศวกรการบินฯ กู้ได้เกือบ 4 แสน ได้เงินแค่หมื่นกว่าบาท ”

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สภ.ปางสีดา ต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว ชาวบ้านใน ต.โคกปี่ฆ้อง เกือบ 20 คน เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน กรณีภรรยา รอง นายก อบต.แห่งหนึ่ง พร้อมกับพวกร่วมกันหลอกชาวบ้าน โดยเก็บบัตรประชาชนนำไปกู้เงินผ่านแอพพลิเคชั่น เคพลัส ของธนาคารกสิกรไทย แต่ชาวบ้านไม่ได้เงินและพบว่าตัวเองเป็นหนี้คนละหลายแสนบาท ซึ่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางเข้าตรวจสอบและสอบสวนกรณีนี้ หลังดีเอสไอประสานตรวจสอบกรณีดังกล่าว


” ทั้งนี้ นางชมพู คงเมือง ผู้ใหญ่บ้านเจ็ดหลัง หมู่ 13 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว ได้พาลูกบ้านจำนวน 17 คน เข้าแจ้งความเพิ่มเติม กับ ร.ต.อ.ชูศักดิ์ กลางประพันธ์ ร้อยเวร สภ.ปางสีดา ขอให้ดำเนินคดีฐานหลอกลวงฉ้อโกง กับภรรยารองนายก อบต.แห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอเมืองสระแก้ว หลังได้ร่วมกับพวก เก็บบัตรประชาชนของชาวบ้าน เพื่อเอาไปกู้เงินผ่านแอพพลิเคชั่น เคพลัส ธนาคารกสิกรไทย ก่อนจะมีใบแจ้งหนี้หลายแสนบาทส่งมาถึงชาวบ้าน ทั้งที่ชาวบ้านบางคนไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว


” นอกจากนั้น กรณีดังกล่าว มีชาวบ้านบางคนได้รับเงินสดจากภรรยารอง นายก อบต.คนนี้ แต่ก็ได้ไม่เต็มจำนวน ซึ่งหลังมีการนำเสนอข่าวออกไป ทางภรรยา รอง นายก อบต.พร้อมพวก พยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยชาวบ้าน เพื่อต่อรองขอจ่ายเงินเพียงครึ่งเดียวของยอดที่ยื่นกู้ โดยให้ชาวบ้านยอมรับสภาพหนี้เต็มจำนวนถึง 500,000 บาท ซึ่งชาวบ้าน ก็ยืนยันกับว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


” นอกจากนั้น ผู้ใหญ่บ้านเจ็ดหลัง กล่าวว่า การเรียกเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านเอาไปกู้เงิน ตั้งแต่ 3 ถึง 4 เดือนที่แล้ว โดยส่วนตัวก็ได้แจ้งข้อมูลในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านหรือ แม้แต่ประกาศเสียงตามสาย ไม่ให้ชาวบ้านหลงเชื่อ แต่จากสภาพเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงในยุคโควิด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ก็สามารถกู้เงินจากธนาคารที่น่าเชื่อถือได้ ทำให้มีชาวบ้านเจ็ดหลัง ตกเป็นเหยื่อจากขบวนการนี้แล้วเกือบ 20 คน


” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ผู้ใหญ่บ้านได้พาชาวบ้านไปลงบันทึกประจำวันกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปางสีดา เพราะว่ายังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่า ตัวเองมีชื่อบัญชีของธนาคารกสิกรไทยแล้ว และเกรงว่า จะเป็นหนี้ธนาคารโดยไม่รู้ตัว หลังจากไม่ได้รับการติดต่อจาก ภรรยา รอง นายก อบต.ที่เก็บบัตรประชาชนไป และผ่านขั้นตอนสแกนใบหน้าไปแล้วหลายเดือน ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดกลายเป็นหนีธนาคารโดยไม่รู้ตัว และไม่ได้รับเงินกู้จำนวนดังกล่าว


” ด้าน ผู้ใหญ่บ้านรายเดิม ยังกล่าวอีก เมื่อคืนที่ผ่านมาภรรยารอง นายก อบต.พร้อมพวก ประมาณ 3 คน ได้เข้าไปหาลูกบ้าน และพยายามต่อรองขอจ่ายเงินเพียงครึ่งเดียว อ้างไปต่าง ๆ นา ๆ ว่ากระบวนการกู้เงินจากธนาคารนั้น ถูกกฎหมาย ไม่ได้หลอกลวงชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้รับเงิน และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวน ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ประสานงานเข้ามาสอบถามรายละเอียดและแจ้งงาส คดีนี้ทางดีเอสไอ กำลังให้ความสนใจและเตรียมนำเข้าพิจารณาเป็นคดีพิเศษด้วย


” ส่วนการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน จากเอกสารของชาวบ้าน อายุ 67 ปี คนหนึ่ง ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ถูกแอบอ้างว่า เป็นวิศวกรการบิน และได้รับการยืนยันจากลูกชายของลุงวัย 67 ปี ว่าก่อนหน้านี้ไปขอคัดเอกสาร เงินเข้า-ออก บัญชีของพ่อจากธนาคารกสิกรไทย สาขาสระแก้ว พบความผิดปกติหลายอย่าง ตั้งแต่สาขาเจ้าของบัญชี ระบุว่า เป็นธนาคารกสิกรไทย สาขาเอสพานาด รัชดาภิเษก มีการแต่งบัญชีให้กับพ่อมีรายได้ต่อเดือนสูงถึง 90,000 บาท เพื่อขยายเพดานเงินกู้ให้ได้เงินจำนวนมาก ก่อนที่พ่อจะเป็นหนี้ธนาคาร 376,000 บาท โดยได้รับเงินสด จากภรรยา รอง นายก อบต. เพียงแค่ 15,000 บาทนั้น


” สำหรับรายละเอียดในการทำธุรกรรมทางการเงิน ของขบวนการของภรรยา รอง นายก อบต.คนนี้ ะยะเวลาภายใน 7 วัน พบว่า มีการเบิกและถอนเงิน 376,000 บาท หมดเกลี้ยงบัญชีภายใน 12 รายการ รวมทั้งมีการถอนเงินสด รวมถึงโอนเงินเข้าไปยังบัญชีต่าง ๆ ที่มีรายชื่อปลายทางระบุผู้รับชัดเจน โดยชาวบ้านตั้งข้อสังเกตได้ว่า ขบวนการหลอกลวงชาวบ้านของกลุ่มภรรยา รอง นายก อบต.มีคนร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน อย่างแน่นอน ส่วนหญิงชาวบ้านอีกราย ยอมรับว่า หลังจากรู้ว่าชาวบ้านน่าจะถูกหลวงลวงแน่นอน จึงได้เดินทางไปติดต่อธนาคารกสิกรไทย สาขาสระแก้ว เพื่อขอปิดบัญชีทันที เพื่อเป็นการป้องกันการเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว


” อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ธำรงค์ ชูหมุน รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปางสีดา กล่าวว่า วันนี้ทางร้อยเวรฯได้เรียกชาวบ้านมาให้ข้อมูลในเบื้องต้น และสอบสวนเพิ่มเติมเป็นรายบุคคล ซึ่งเรื่องนี้กำลังได้รับความสนใจจากสังคมเป็นวงกว้าง เพราะทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายกับชาวบ้านแล้ว และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว และ สภ.ปางสีดา ท้องที่เกิดเหตุจะเร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเร็วที่สุด..นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว